top of page

ร้อยไหมจมูก VS เสริมจมูก แตกต่างกันอย่างไร?

Updated: Nov 9, 2023


ร้อยไหมจมูก VS เสริมจมูก

ปัจจุบันนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการร้อยไหมจมูก และการเสริมจมูกเป็นที่นิยมกันมาอย่างยาวนานมาก ซึ่งหัตถการทั้ง 2 แบบ ช่วยปรับรูปทรงจมูกให้สวยงามเหมือนกัน แต่การร้อยไหมและการเสริมจมูกก็มีความแตกต่างกันอยู่ มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย ข้อควรระวังในการทำแต่ละหัตถการ อีกทั้งมีการเตรียมตัวก่อนทำ และการดูแลตนเองหลังทำหัตถการอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดได้รวบรวมไว้ในบทความนี้แล้ว

ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะใช้หัตถการแบบไหนดีนั้น เราจะพาคุณมาหาคำตอบผ่านบทความด้านล่างนี้กันค่ะ

 

เลือกหัวข้อที่สนใจอ่านตามด้านล่าง

 

การเสริมความงามในรูปแบบที่ไม่ต้องผ่านการผ่าตัด เป็นการใช้เส้นไหมที่ผลิตโดยวัสดุที่สามารถย่อยสลายหมดได้เองภายใต้ผิวหนังของเราอย่างเช่น ไหม Polydioxanone (PDO), ไหม Poly L Lactic acid (PLLA) และ ไหม Polycaprolactone (PCL) เป็นต้น ซึ่งเส้นไหมเหล่านี้จะทำหน้าที่ในการค้ำจุนโครงสร้างของจมูกให้มีความโด่งเป็นสันคมมากขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยที่ตัวเส้นไหมจะอยู่ได้นานตั้งแต่ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิตไหมนั้น ๆ เมื่อเส้นไหมสลายหมดก็จะยังคงความโด่งของจมูกด้วยคอลลาเจนที่ถูกสร้างจากการกระตุ้นของเส้นไหม ทำให้จมูกดูมีความเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน


ร้อยไหมจมูก

 

2. การเตรียมตัวก่อนการร้อยไหมจมูก

2.1. เตรียมร่างกายให้สุขภาพแข็งแรง

2.2. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

2.3. งดการทำหัตถการอย่างอื่นบนใบหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนวันร้อยไหม เพราะอาจเกิดผลต่อบริเวณที่จะรับการทำหัตถการร้อยไหมจมูก

2.4. งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Ibuprofen,น้ำมันตับปลา, Vitamin B, Vitamin E, ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น เนื่องจากยากลุ่มนี้จะส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้า ผู้ป่วยเกิดอาการเลือดออกเพิ่มมากขึ้น การหยุดยาจะช่วยลดโอกาสการเสียเลือดระหว่างผ่าตัดได้

 

3. การดูแลหลังการร้อยไหมจมูก

3.1. งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจทำให้แผลผ่าตัดหายช้าและอาจเกิดเป็นคีลอยด์ขึ้นมาได้

3.2. งดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารทะเล เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

3.3. ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมได้

3.4. งดการสัมผัส แกะ เกา บริเวณที่ทำหัตถการเพื่อลดการเกิดการอักเสบ หรือแผลเปิดได้

3.5. งดการโดนน้ำหลังทำหัตถการ 4-6 ชั่วโมง

 

4. ข้อดีและข้อเสียของการร้อยไหมจมูก

ข้อดี

ข้อเสีย

​1. ใช้เวลาไม่นานในการทำหัตถการ

1. อาจมีอาการช้ำและบวมแดงหลังทำ สามารถหายได้เอง

2. เห็นผลลัพธ์ได้ทันที และจะเห็นผลได้ดีที่สุดเมื่อไหมเซ็ตตัว

2. อายุของวัสดุสั้นกว่าการเสริมจมูก

3. ราคาไม่แพง

3. กรณีที่มีเนื้อจมูกเยอะอาจต้องใช้ไหมหลายเส้น

4. วัสดุที่ใช้ผลิตเส้นไหมสามารถสลายได้เองจนหมด

4. หากร้อยไหมเข้าไปผิดชั้น หรือร้อยถี่เกินไป ร้อยจำนวนเส้นเยอะเกินไป อาจเกิดผลข้างเคียงอย่างเป็นพังผืดใต้ชั้นผิวได้

5. เวลาพักฟื้นน้อยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

6. การดูแลรักษาง่าย

7. สามารถกลับมาร้อยใหม่ได้เรื่อย ๆ

8. ไม่ต้องกลัวการทะลุเหมือนกับการเสริมจมูก


 

5. ข้อควรระวังในการร้อยไหมจมูก

5.1. ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ เนื่องจากเสี่ยงที่จะเกิดการดึงรั้งของเส้นไหมอาจทำให้เส้นไหมขาดได้

5.2. ควรนอนให้หัวอยู่สูงกว่าระดับหน้าอก เพื่อลดอาการบวมช้ำของแผลหลังร้อยไหม

5.3. ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีฐานจมูก เพราะการร้อยไหมจมูกไม่สามารถร้อยไหมในปริมาณมาก ๆ ได้อาจทำให้ Elastin ใต้ผิวหนังซ้อนทับกันมากเกินไป

5.4. ควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชนิดของไหมและคลินิกที่ได้มาตรฐาน

 

เป็นการผ่าตัดทางความงามที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทางการแพทย์จะเรียกว่าการสร้างจมูกใหม่ โดยจะใช้วัสดุสังเคราะห์ หรืออวัยวะของผู้เข้ารับการรักษาเองมาใช้ในการเสริมเช่น ซิลิโคน เนื้อเยื่อเทียม หรือกระดูกซี่โครงบางส่วน เป็นต้น โดยวัสดุเหล่านี้จะนำมาเป็นโครงสร้างในการออกแบบจมูกขึ้นมาใหม่ให้เหมาะกับความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาแต่ก็ต้องใช้ความสามารถในการออกแบบวัสดุอย่างซิลิโคน เพราะต้องออกแบบและปั้นรูปขึ้นมาให้เหมาะกับโครงหน้า และปริมาณเนื้อเยื่อบริเวณจมูกของบุคคลนั้น ๆ ด้วย เช่นนั้นอาจทำให้เกิดผลเสียตามมาได้ในอนาคต โดยที่การเสริมจมูกจะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบ


เสริมจมูกคืออะไร

6.1. เสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)

เป็นการเสริมจมูกโดยการผ่าเข้าไปบริเวณใต้ฐานจมูก และกรีดตามแนวดิ่งลงมาเพื่อให้เห็นแกนจมูกทำให้สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูก การเสริมจมูกแบบนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้มากกว่าแบบปิดเช่น การตอกฐานจมูก การยืดผนังกั้นจมูก เป็นต้น


เสริมจมูกแบบเปิด

6.2. เสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty)

เป็นการเสริมจมูกโดยการผ่าเปิดด้านในจมูกเพียงเล็กน้อยด้านใดด้านหนึ่งเพื่อใส่วัสดุปรับรูปทรง (ซิลิโคน) เข้าจะเกิดแผลเพียงขนาดเล็ก มองไม่เห็นจากด้านนอก


เสริมจมูกแบบปิด

 

7. การเตรียมตัวก่อนการเสริมจมูก

7.1. งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์

7.2. งดการรับประทานยาแก้ปวด ยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบ ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Ibuprofen เป็นต้น

7.3. ก่อนการผ่าตัด 8 ชั่วโมง งดการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม

7.4. งดการแต่งหน้ามาในวันที่มีการผ่าตัด

 

8. การดูแลหลังการเสริมจมูก

8.1. หลีกเลี่ยงการสัมผัส แคะ แกะ เกา บริเวณจมูก เพื่อลดการอักเสบ การติดเชื้อ

8.2. ถ้ามีอาการปวด บวม สามารถรับประทานยาแก้ปวด ลดบวมได้ตามคำแนะนำของแพทย์

8.3. สามารถประคบเย็น เพื่อลดการแข็งตัวของเลือดและอาการบวมได้หลังจาก 3 วันที่ทำการผ่าตัด

8.4. หลังการผ่าตัดจมูกหลีกเลี่ยงการโดนน้ำ สามารถใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำสะอาด น้ำเกลือ หรือคลีนซิ่งทำความสะอาดบริเวณใบหน้าได้

8.5. ในช่วง 1-2 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงเพื่อให้โครงสร้างของจมูกคงที่มากที่สุด

 

9. ข้อดีและข้อเสียของการเสริมจมูก

ข้อดี

ข้อเสีย

1. ผลการผ่าตัดสามารถอยู่ได้นาน

1. ราคาค่อนข้างสูง


2. สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับจมูกได้มากกว่า

2. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดยุ่งยากกว่าร้อยไหม

3. สามารถทำรูปทรงจมูกได้หลากหลายกว่า

3. ต้องพักฟื้นหลังการผ่าตัดเป็นเวลานาน

4. มีอาการบวมช้ำได้มาก

5. การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดยุ่งยากกว่าการร้อยไหมจมูก

6. มีโอกาสจมูกเบี้ยว จมูกทะลุ จมูกติดเชื้อ ซีลิโคนไหล (ขึ้นกับความชำนาญของแพทย์)



 

10. ข้อควรระวังในการเสริมจมูก

10.1. หลังการผ่าตัดหรือช่วงพักฟื้น หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ควรงดไปก่อนในช่วง 1 เดือนแรก

10.2. หลังการผ่าตัดหรือช่วงพักฟื้น ห้ามสั่งน้ำมูกแรง ๆ อาจทำให้ปากแผลเปิดแล้วเกิดการอักเสบมากขึ้นได้

10.3. ห้ามนอนทับบริเวณที่มีการผ่าตัด

10.4. ควรเลือกคลีนิก หรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าใช้บริการ

10.5. ควรเลือกรูปทรงจมูกให้เหมาะสมกับใบหน้า ไม่ควรทำให้โด่งมากเกินไปเพื่อเลี่ยงซีลิโคนทะลุ

 

bottom of page