top of page

เมษา…มาพร้อมกับโรคหน้าร้อนยอดฮิต! ที่ควรระวัง!


เมษา…หน้าร้อน มาพร้อมกับโรคยอดฮิต! ที่ควรระวัง!

เข้าสู่เดือนเมษามาพร้อมกับนำพาโรคหน้าร้อนมาได้ง่าย เพราะอากาศร้อนเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุกับโรคทางเดินอาหารและน้ำ ดังนั้นอากาศร้อนแบบนี้ อย่าลืมใส่ใจสุขภาพ เพราะอาจต้องเจอกับสารพัดโรคหน้าร้อนยอดฮิต! จะมีอะไรบ้าง ? แล้วจะมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร ? ในช่วงนี้ ไปดูกันในบทความนี้ค่ะ



เลือกหัวข้อที่สนใจอ่านตามด้านล่าง


 

โรคหน้าร้อน ที่ควรระวัง!

โรคที่มากับหน้าร้อนพบได้บ่อย มีดังนี้


โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก


โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก

โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก เกิดจากการสูญเสียน้ำ จากการทำกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากในสภาวะอากาศร้อน ทำให้ร่างกายไม่สามารถรักษาอุณหภูมิตัวเองได้ โดยมีอาการหน้ามืด หน้าแดง ปวดศีรษะ อาเจียน ชัก หรือการหมดสติได้ 

 

โรคอาหารเป็นพิษ


โรคอาหารเป็นพิษ

โรคอาหารเป็นพิษในช่วงหน้าร้อน เกิดจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อโรคหรือพิษ ซึ่งในช่วงหน้าร้อน อากาศร้อนส่งผลให้เชื้อโรคและพิษสามารถเจริญเติบโตและแพร่กระจายได้มากขึ้น เช่นการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ในอาหารที่ไม่ถูกเก็บรักษาอย่างเหมาะสม หรือการปรุงอาหารไม่สะอาด อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษในช่วงหน้าร้อนได้มากขึ้นด้วย

 

โรคอุจจาระร่วง


โรคอุจจาระร่วง

ในช่วงหน้าร้อน โรคอุจจาระร่วงมักเกิดขึ้นมากขึ้น เนื่องจากสภาวะอากาศร้อน และชื้นที่เป็นสถานที่ที่เชื้อโรคสามารถเจริญเติบโต และแพร่กระจายได้ง่าย ทั้งนี้การบริโภคอาหารที่ไม่สะอาด หรือมีเชื้อโรค อาจส่งผลให้เกิดโรคอุจจาระร่วงได้มากขึ้นด้วย โดยโรคอุจจระร่วงมีอาการถ่ายเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำ อย่างน้อย 3 ครั้ง หรือถ่ายปนมูกปนเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง อาจอาเจียนหรือมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วย

 

วิธีการป้องกันการเกิดโรคในช่วงหน้าร้อน 


  • ดื่มน้ำวันละ 8 - 10 แก้ว หากสูญเสียเหงื่อมากควรดื่มเครื่องดื่มประเภทเกลือแร่ 

  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เลือกออกกําลังกายช่วงเช้าและเย็น และควรออกกำลังกายบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท

  • เลือกใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ผ้าโปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี

  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด สวมแว่นกันแดด กางร่ม ทาครีมกันแดด 

  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

  • หลีกเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ  

  • กินอาหารขณะที่ยังร้อน อาหารที่เก็บไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง ต้องนำมาอุ่นก่อนรับประทานทุกครั้ง

  • เลือกซื้อวัตถุดิบที่สด สะอาด ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานร่วมกัน

  • ก่อนหยิบจับอาหารควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง

  • งดอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ของหมักดอง 

  • กินอาหารย่อยง่าย  

 

โรคผิวหนังที่มากับหน้าร้อน ควรระวัง !

โรคผิวหนังที่มากับช่วงหน้าร้อนที่พบได้บ่อย มีดังนี้


โรคแพ้แสงแดด


โรคแพ้แสงแดด


โรคแพ้แสงแดด เกิดจากผิวหนังไวต่อแสงแดดมากกว่าปกติ ทำให้เกิดผดผื่นขึ้นบริเวณผิวหนัง โดยมีลักษณะตุ่มนูนแดงมีอาการคัน หรืออาจเป็นตุ่มน้ำขึ้นมาได้ ซึ่งมักพบบริเวณผิวที่โดนแสงแดดบ่อย ๆ โดยไม่มีอะไรป้องกัน เช่น ใบหน้า, คอ, ใบหู, แขน, ขา, หลังมือ และหลังเท้า เป็นต้น

 

โรคกลาก


โรคกลาก

โรคกลาก เป็นเชื้อราบนผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อ มีลักษณะเป็นวงสีแดงหรือขุยสีขาว ซึ่งโรคนี้สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสกับผิวหนังของคนที่ติดเชื้อได้ โดยมักพบเชื้อราเหล่านี้จากบริเวณที่มีความอับชื้น เช่น ระหว่างนิ้วมือ, ขา, ลำตัว, ท้อง, รักแร้, ใต้ราวนม, และขาหนีบ ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการคันมากเมื่อตอนเวลากลางคืน

 

โรคเกลื้อน


โรคเกลื้อน

โรคเกลื้อน เกิดจากมีเชื้อราบนผิวหนังชื่อ Pityrosporum ซึ่งเชื้อราชนิดนี้กินไขมันในรูขุมขนเป็นอาหาร เมื่อปล่อยให้ร่างกายเหงื่อไคลหมักหมม เชื้อราจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น และก่อให้เกิดโรคเกลื้อน โดยมีลักษณะเป็นผื่นวงเล็ก ๆ รอบรูขุมขน หรือรวมกันเป็นปื้นใหญ่ ๆ มีขุย ผื่นอาจมีสีขาว ชมพู หรือน้ำตาล ขึ้นวงเดียว หรือหลายวงได้ ซึ่งโรคนี้พบบ่อยในบริเวณผิวหนังที่มีต่อมไขมันมาก ๆ เช่น หน้าอก และหลัง เป็นต้น

 

ผด ผื่นร้อน


ผด ผื่นร้อน

ผด ผื่นร้อน เกิดจากต่อมเหงื่อเกิดการอุดตันอยู่ใต้ผิวหนัง และไม่สามารถขับเหงื่อออกมาได้  ทำให้รูขุมขนเกิดการอักเสบ ซึ่งผด ผื่นมักขึ้นในช่วงที่อากาศร้อน เหงื่อออกเยอะ ส่งผลทำให้เกิดเป็นรอยผด ผื่นที่มีลักษณะเป็นรอยตุ่มแดงเกาะรวมกันเป็นกระจุก พบได้ทุกเพศทุกวัย โดยบริเวณที่พบรอยผด ผื่นได้บ่อย ได้แก่ คอ, หน้าอก, ใต้ราวนม, รอยพับข้อศอก และขาหนีบ เป็นต้น

 

ฝ้า กระแดด  


ฝ้า กระแดด

ฝ้า กระแดด เกิดจากใบหน้าโดนแสงแดดโดยที่ไม่มีการป้องกัน ส่งผลทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดสีให้ทำงานมากขึ้น ทำให้ช่วงหน้าร้อนเมื่อมีการโดนแดดที่ร้อนจัดบ่อย ๆ จะทำให้เกิดฝ้าแดดและกระแดด บนใบหน้าได้ง่ายหรือทำให้สีผิวคล้ำขึ้น

ซึ่งหากใครที่เป็นฝ้า กระอยู่แล้วอาจเป็นได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หากโดนแดดสะสมเป็นเวลานาน ๆ  จะส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังเมื่อมีอายุมากขึ้น

 

โรคลมพิษ

โรคลมพิษ

โรคลมพิษ เกิดจากการอยู่ในสภาวะอากาศร้อนมาก ๆ เช่น การอยู่ในที่แดดจัด ๆ หรือช่วงฤดูร้อน ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้เพียงพอ โดยส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยอาการของโรคลมพิษ ได้แก่ เป็นผื่นนูนล้อมรอบด้วยรอยแดง ขอบเขตชัดเจน ขนาดและรูปร่างต่างกันไป ผู้ป่วยจะรู้สึกคันมาก และหากเกาก็จะเกิดผื่นแดงมากยิ่งขึ้น 

 

ช่วงหน้าร้อนควรดูแลผิวหนังอย่างไรดี ?


  • ทำความสะอาดร่างกาย และล้างมืออยู่เสมอ

  • หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดมาก หรือผ้าขนสัตว์ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้

  • ป้องกันแสงแดดด้วยการกางร่ม สวมหมวก ใส่เสื้อแขนยาว

  • ทาโลชั่นทุกครั้งหลังอาบน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

  • ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่

  • อยู่ในที่มีอากาศเย็น ถ่ายเทได้สะดวก

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

  • ทาครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวอย่างสม่ำเสมอ

 

bottom of page