รู้หรือไม่? ความสวยของใบหน้าไม่ได้ตัดสินจากความรู้สึก !!! แต่มาจากทฤษฎีความงามตามศาสตร์ความงดงาม “สัดส่วนทองคำ” ซึ่งเป็นทฤษฎีความสวยแบบไร้ที่ติ ที่ช่วยเนรมิตความสวย ให้กับเหล่าดารา ให้หน้าเป๊ะกว่าคนทั่วไป วันนี้ Innovation Beauty จะพาไปดูกันค่ะว่าสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) เกี่ยวข้องกับความงามอย่างไร ? เราควรจะเสริม เติมแต่งตรงไหน ไปดูกันเลยค่ะ
1. Symmetry ดูความสมมาตร (ความเท่ากัน) ของใบหน้าทั้งสองข้าง โดยการตั้งเส้นกึ่งกลางเป็นแกนให้ใบหน้า ทุกส่วนของหน้าทั้งด้านซ้ายและด้านขวา จะต้องมีขนาดและความกว้างเท่ากัน
-ความกว้างของใบหน้าส่วนบน (Upper face)
ดูความกว้างของหน้าผาก และระยะห่างระหว่างดวงตา
-ความกว้างของโหนกแก้ม (Middle face)
เช็คความกว้าง และความสูงของโหนกแก้ม ทั้งเวลาทำหน้าเฉยๆ และยิ้ม
-ความกว้างของกรอบหน้า (Lower face)
เช็คความกว้างของกรอบหน้า ขนาดกราม ทั้งเวลาทำหน้าเฉยๆ และยิ้ม
2. Horizontal Grids เมื่อแบ่งใบหน้าตามแนวนอน เป็น 3 ส่วนแต่ละส่วนต้องยาวเท่ากันทุกส่วน ในอัตราส่วน 1 : 1 : 1 โดยวัดเป็น
- Upper Face คือส่วนขอบไรผมถึงหัวคิ้ว หากวัดแล้วแคบกว่าส่วนอื่นนั้นแปลว่าหน้าผากสั้นเกินไป จะทำให้ใบหน้าดูสั้นและเหลี่ยม หากยาวเกินไปจะทำให้ดูหัวเถิก
- Middle Face คือส่วนหัวคิ้วถึงปลายจมูก ความยาวในส่วนนี้มักบ่งบอกถึงความยาวของจมูกที่เหมาะสม ซึ่งจมูกที่ยาวเรียวได้สัดส่วนจะทำให้ดูใบหน้าหวาน ละมุน
- Lower Face คือส่วนปลายจมูกถึงปลายคาง ซึ่งหากสั้นกว่าส่วนอื่นจะทำให้รูปหน้าดูกลม ไม่มีคาง หากยาวไปหน้าจะดูแหลมผิดสัดส่วน
3. Vertical Grids แบ่งใบหน้าแนวตั้งได้เป็น 5 ส่วน แต่ละส่วนมีความกว้างที่เท่ากัน โดยความกว้างรวมของ 5 ส่วนของใบหน้านี้จะบอกถึงความกว้างของใบหน้า
ส่วนคนที่มโหนกแก้มใหญ่เกินไป คือมีความกว้างของโหนกแก้มมากกว่าส่วนอื่นของใบหน้าซึ่งส่วนนี้จะทำให้หน้าดูดุ ไม่ละมุน และยังส่งผลให้ใบหน้าดูบาน แก้มตอบ และดูมีอายุอีกด้วย
หากเราเข้าใจถึงหลักการของสัดส่วนทองคำของใบหน้าแล้ว เราก็จะรู้ว่าตรงไหนเกินหรือขาด และควรปรับปรุงส่วนไหน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และลงตัวอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด