“ผิวหนังย้วย” หย่อนยาน ไม่กระชับ มีสาเหตุ จากอะไร ?
Updated: 7 days ago

สารบัญ
ผิวที่หย่อนคล้อยต่างกับผิวที่เต่งตึงอย่างไร
โครงสร้างผิว แบ่งออกเป็น 3 ชั้นย่อย
หนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นที่อยู่นอกสุดทำหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ สิ่งแปลกปลอมและแบคทีเรีย ช่วยควบคุมอุณภูมิร่างกาย ปรับสมดุล pH และยังช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวอีกด้วย
หนังแท้ (Dermis) ชั้นหนังแท้เป็นชั้นที่บ่งบอกถึงสุภาพผิว องค์ประกอบหลักได้แก่ คอลลาเจน และ อิลาสติน ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงและความยืดหยุ่น และยังมี ไฮยาลูรอน ทำหน้าที่กักเก็บน้ำให้ผิวและเชื่อมคอลลาเจนกับอิลาสตินไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ชั้นหนังแท้ยังเป็นที่อยู่ของต่อมน้ำเหลือง เส้นประสาท เซลล์รากผม
ชั้นใต้ผิวหนังหรือชั้นไขมัน (Subcutaneous) ประกอบด้วยเซลล์ไขมัน (adipocyte) จำนวนมาก ทำหน้าที่กักเก็บพลังงาน ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และเป็นเหมือนเบาะกันกระแทกให้กับอวัยวะภายใน

ผิวที่หย่อนคล้อยต่างกับผิวที่เต่งตึง อย่างไร
ผิวหนังย้วย หย่อนยาน ดูเหี่ยวย่น ไม่กระชับ เกิดได้กับทุกช่วงวัยโดยเกิดจาก 2 ปัจจัยหลักๆ คือคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผิวลดลง ทำให้ผิวขาดความแข็งแรง ขาดความยืดหยุ่น ผิวจึงดูไม่กระชับ มักเกิดกับคนที่อายุเยอะ ตากแดดเป็นประจำ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
การสูญเสียไขมันในผิวหนังชั้นลึก เพราะไขมันใต้ชั้นผิวถือเป็นตัวช่วยเสริมรูปทรงของใบหน้าและลำตัวให้คงรูปอยู่ได้ดี การสูญเสียไขมันทำให้ผิวเกิดการยุบตัวได้ ผิวจึงดูหย่อนคล้อย พบในคนที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหรือคนที่ดูดไขมัน ทำให้ไขมันหายไปอย่างรวดเร็ว ผิวที่เคยยืดออกจึงหดกลับมาได้ไม่ทัน กลายเป็นความหย่อนยานของผิวได้

สาเหตุผิวหย่อนคล้อย
อายุมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจนจะลดลงแต่อัตราการสลายคอลลาเจนยังคงเหมือนเดิม ทำให้โดยรวมปริมาณคอลลาเจนในร่างกายลดลง ผิวจึงขาดความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ผิวดูไม่เต่งตึงเปล่งปลั่งเหมือนตอนเด็กๆ นอกจากนี้ไฮยาลูรอนในผิวก็ลดลงเช่นกันทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดเป็นรอยเหี่ยวย่นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะริ้วรอยตีนกาบริเวณใบหน้า
การพักผ่อน การนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายไม่สามารถหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ออกมาซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทำให้ผิวขาดความเต่งตึง เปล่งปลั่ง
การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่จะทำให้ประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือดลดลงเลือดจึงไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆได้ไม่ดี และยังทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังอีกด้วย ทำให้ผิวขาดความกระชับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้ง และผิวหย่อนคล้อยตามมา
การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ในตอนที่มีน้ำหนักตัวมากขึ้นผิวหนังจะมีการยืดขยายออกเพื่อรองรับการสะสมไขมันในร่างกาย การลดน้ำหนักที่ผิดวิธีหรือการที่น้ำหนักลดลงเร็วจนเกินไป ทำให้ไขมันในชั้นผิวหายไปอย่างรวดเร็ว ผิวที่เคยยืดออกอาจหดกลับมาได้ไม่ทันกลายเป็นผิวหนังส่วนเกินหย่อนยานหลังลดน้ำหนัก โดยเฉพาะบริเวณท้องแขน หน้าอก หน้าท้อง และต้นขา
การสลายไขมัน
- เมโสแฟต ตัวเลือกแรกๆ ของคนที่อยากปรับรูปหน้าหรือลดสัดส่วน อาจทำให้ผิวดูห้อยได้หากฉีดสลายไขมันในชั้นลึกเกินไปหรือใช้สารสกัดที่ทำลายเซลล์ไขมันแบบรุนแรงซึ่งจะเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว แต่อาจทำให้หน้าดูห้อยได้
- ดูดไขมัน อีกหนึ่งทางลัดในการลดสัดส่วนที่ได้รับความนิยมเพราะเห็นผลอย่างชัดเจนและรวดเร็ว แต่การดูดไขมันเป็นการทำให้ชั้นไขมันหายไปอย่างรวดเร็วไม่ต่างจากการที่ลดน้ำหนักแบบผิดวิธี ซึ่งจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผิวมาก ทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามมา
แม่หลังคลอด ในขณะที่ตั้งครรภ์ผิวหนังจะมีการยืดขยายออกมากโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ทำให้หลังคลอดบริเวณหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขนที่เคยขยายออกเกิดความหย่อนคล้อยขาดความกระชับ นอกจากนี้ระหว่างการตั้งครรภ์ร่างกายจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน สูงขึ้นเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารก หลังจากการคลอดลูกฮอร์โมนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ ผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น ผิวเหี่ยวย่น
วิธีป้องกันผิวหย่อนยาน
ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นดูสุขภาพดี
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
พักผ่อนให้เพียงพอ
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไปเป็นประจำ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอโดยออกแบบเวทเทรนนิ่งสลับกับแบบคาร์ดิโอ โดยต้องไม่อดอาหารโดยเฉพาะโปรตีนที่เป็นส่วนสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
หากต้องการสลายไขมัน ให้เลือกใช้เมโสแฟตที่มีส่วนผสมของสารยกกระชับด้วย
หลังจากดูดไขมันแล้ว ควรใส่ชุดยกกระชับตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
วิธีรักษา
เมโส (Mesotherapy) เป็นการใช้สารสกัดเพื่อช่วยเติมเต็มและฟื้นฟูผิวทำผิวหน้าดูกระชับขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ผิวไม่ได้หย่อนคล้อยมาก คนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้านไปที่เว็บเราได้นะอันนี้ ผิวหมองคล้ำไปที่เว็บเราได้นะอันนี้ ไม่กระจ่างใสร่วมด้วย
ข้อดี
- เริ่มเห็นผลใน 1-2 สัปดาห์
- มีหลายยี่ห้อ หลายราคาให้เลือก
- ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่ผิวหย่อนคล้อยมากๆ
- ไม่เหมาะกับการใช้ในบริเวณกว้างอย่างการยกกระชับสัดส่วนลำตัว
ข้อควรระวัง
- ไม่แนะนำให้ฉีดในคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- ห้ามฉีดในคนที่มีประวัติแพ้สารสกัดที่เป็นส่วนประกอบของเมโส

โบท็อก (Botox) นอกจากจะช่วยให้หน้าเรียว ช่วยลดเลือนริ้วรอยแล้ว โบท็อกยังสามารถช่วย ลิฟกรอบหน้า ได้อีกด้วย โดยการฉีดเข้าไปยังบริเวณกล้ามเนื้อบริเวณกรอบหน้าที่ดึงให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัว ส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัดขึ้น เหมาะกับคนที่ผิวหย่อนคล้อยมีริ้วรอย โดยผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกลิฟหน้าเริ่มเห็นผลใน 3- 5 วันหลังฉีด จากนั้นใบหน้าจะยกขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพภายใน 1-2 สัปดาห์และคงอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน
ข้อดี
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือนหลังการฉีด 1 ครั้ง
- มีหลายยี่ห้อ หลายราคาให้เลือก
- ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสีย
- ไม่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังได้
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่ผิวหย่อนคล้อยมากๆ
ข้อควรระวัง
- ไม่แนะนำให้ฉีดในคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- ห้ามฉีดในคนที่มีประวัติแพ้ Botulinum toxin
- ห้ามฉีดในคนที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ
- ห้ามฉีดในคนที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ห้ามฉีดในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อในการกลืน
- ห้ามฉีดในคนที่ผิวหนังติดเชื้อบริเวณที่จะฉีดโบท็อก

ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นการใช้ไฮยาลูรอนชนิด cross link หรือสารเติมเต็มอื่นๆ ช่วยเติมเต็มร่องใต้ผิวและช่วยให้ผิวดูกระชับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าพร้อมแก้ปัญหารูปหน้าไม่เท่ากัน เพราะเป็นการเติมปาก เติมคาง เติมร่องริ้วรอย ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ให้ดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น
ข้อดี
- เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีและคงอยู่นาน 8-12 เดือน
- ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่ผิวหย่อนคล้อยมากๆ
ข้อควรระวัง
- ห้ามฉีดในคนที่ผิวหนังติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
- ห้ามฉีดในคนที่แพ้ยาชา

เลเซอร์ (Laser) เป็นการใช้เครื่องมือเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อเป็นการช่วยกระชับใบหน้า พร้อมกับช่วยลดเลือนริ้วรอย รวมถึงจุดด่างดำบนใบหน้าได้
ข้อดี
- ช่วยยกกระชับได้ทั้งใบหน้าและลำตัว พร้อมกับช่วยลดเลือนรอยดำได้
- ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์คงอยู่ไม่นาน
- ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น
- หลังทำต้องเลี่ยงแสงแดด
ข้อควรระวัง
- ห้ามฉีดในคนที่ผิวอักเสบหรือติดเชื้อ
- หลังฉีดห้ามโดนแดดจัดเป็นเวลานาน

ไฮฟู่ (Hifu) เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวน์ยิงลงไปใต้ชั้นผิวกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวบริเวณที่ทำหัตถการดูเต่งตึง กระชับ เรียบเนียนขึ้น แก้ได้ทั้งปัญหาริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มาก
ข้อดี
- ผลลัพธ์คงอยู่นาน 6 เดือน - 1 ปี
- ไม่ต้องพักฟื้น
- ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์คงอยู่ไม่นานเท่าอัลเทอร่าหรือเทอร์มาจ
ข้อควรระวัง
- คนที่เคยฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกมาก่อน เนื่องจากความร้อนจากการทำไฮฟู่อาจทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์หรือโบท็อกสั้นลง
- คนที่เคยร้อยไหมมาก่อน ความร้อนอาจทำให้ไหมขาดได้ ควรรอให้ไหมละลายหมดก่อนทำไฮฟู่
- ต้องถอดเครื่องประดับบริเวณที่จะทำออกก่อน
- คนที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pace maker) ไม่แนะนำให้ทำ

อัลเทอร่า (Ulthera) เครื่องมือยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ช่วยยกผิวหน้าที่หย่อนคล้อยและปรับกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินได้อีกด้วย ทำให้แก้ปัญหาได้ทั้งริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย โดยอัลเทอร่าเป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์เข้าสู่ชั้นผิวไปกระตุ้นชั้นผิวให้เกิดการหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวที่หย่อนคล้อย ยกกระชับขึ้น กรอบหน้าคมชัดมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผิวเรียบเนียน ริ้วรอยลดเลือนลง เหมาะกับคนที่ผิวหน้าหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้คมชัดขึ้น รวมถึงคนที่มีริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น
ข้อดี
- ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
- ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
ข้อควรระวัง
- คนที่เคยฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกมาก่อน เนื่องจากความร้อนอาจทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์หรือ โบท็อกสั้นลง
- คนที่เคยร้อยไหมมาก่อน ความร้อนอาจทำให้ไหมขาดได้ ควรรอให้ไหมละลายหมดก่อนทำ
- ต้องถอดเครื่องประดับบริเวณที่จะทำออกก่อน
- คนที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pace maker) ไม่แนะนำให้ทำ

เทอร์มาจ (Thermage) เป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุ สู่ชั้นผิว ลึกได้ถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous fat) ช่วยกระตุ้นการสร้างคลอลาเจนและอิลาสตินใหม่ขึ้นมา ทำให้ผิวหนังกระชับ เรียบเนียบ ไม่ห้อยย้อย สามารถทำได้ทั้งหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย เหมาะกับคนที่กรอบหน้าไม่ชัด ผิวไม่กระชับ มีแก้มห้อย รวมทั้งคนที่ต้องการลดแก้ม ลดเหนียง
ข้อดี
- กระชับผิวพร้อมลดไขมันสะสมได้
- ผลลัพธ์คงอยู่นาน 1-2 ปี
- ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
- ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสีย
- อาจรู้สึกเจ็บขณะทำได้เพราะเป็นการปล่อยพลังงานลงผิวชั้นลึก
- ราคาค่อนข้างสูง
ข้อควรระวัง
- คนที่เคยฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกมาก่อน เนื่องจากเป็นการปล่อยพลังงานลงผิวชั้นลึกจึงอาจทำให้ผลลัพธ์ของหรือโบท็อกสั้นลง
- คนที่เคยร้อยไหมมาก่อน ความร้อนอาจทำให้ไหมขาดได้ ควรรอให้ไหมละลายหมดก่อนทำ
- ต้องถอดเครื่องประดับบริเวณที่จะทำออกก่อน
- ไม่ควรทำในคนที่กำลังตั้งครรภ์
- คนที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pace maker) ไม่แนะนำให้ทำ

ร้อยไหม (Thread lift) เป็นการใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณต่างๆ เพื่อยกกระชับผิวลดความหย่อนคล้อยใต้ผิวหนัง โดยผิวของเส้นไหมจะมีเงี่ยงเล็กๆ เพื่อเกี่ยวเนื้อให้ยกขึ้นตามแนวเส้นไหมทำให้ผิวดูกระชับขึ้นทันทีหลังทำ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นร่างกายการสร้างคอลลาเจนรอบเส้นไหม ทำให้ผิวยังคงดูกระชับแม้ไหมจะละลายไปแล้ว
ข้อดี
- เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
- เป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้ในการเย็บแผลซึ่งปลอดภัยต่อร่างกาย
- ผลการยกกระชับคงอยู่นาน 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นไหม
- ยกกระชับได้ดีแม้ในคนที่ผิวหย่อนคล้อยมากๆ
- ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
ข้อเสีย
- อาจมีอาการบวมช้ำบริเวณที่ทำการร้อยไหมได้
ข้อควรระวัง
- ห้ามทำในคนที่มีอาการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณที่จะทำ
- ห้ามทำในคนที่แพ้ยาชา
- คนที่มีเกล็ดเลือดต่ำหรือคนที่กินต้องกินยาละลายลิ่มเลือด เป็นประจำ ไม่ควรทำ

ผ่าตัดยกกระชับ เป็นการผ่าตัดเก็บผิวหนังส่วนเกินออกเพื่อให้ผิวดูกระชับขึ้น เหมาะกับคนที่ผิวหย่อนคล้อยมากๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยการใช้เครื่องมือยกกระชับหรือร้อยไหมได้ หรือคนที่ต้องการผ่าตัดนำไขมันออกพร้อมกับยกกระชับไปเลย
ข้อดี
- เห็นผลลัพธ์ชัดเจนในการทำครั้งเดียว
- ผลการยกกระชับคงอยู่นานถาวร
- ยกกระชับได้ดีแม้ในคนที่ผิวหย่อนคล้อยมากๆ
- ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
ข้อเสีย
- มีข้อจำกัดในการทำเยอะ เช่น ในคนที่มีโรคประจำตัวหรือต้องทานยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำอาจไม่สามารถทำได้
- หลังผ่าตัดต้องสวมใส่ชุดยกกระชับอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 1 เดือน
- เสียเวลาในการพักฟื้นนาน
- อาจเกิดรอยแผลเป็นหลังผ่าตัด
ข้อควรระวัง
- ห้ามทำในคนที่กำลังตั้งครรภ์
- คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ โรคความดันโลหิตสูง ไม่ควรทำ
- ไม่ควรทำในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำหรือคนที่กินต้องกินยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ
| ระยะเวลาของผลลัพธ์/การทำ 1 ครั้ง | ความเหมาะสม | ประสิทธิภาพในการรักษา | คะแนนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ |
เมโส | 1 สัปดาห์ | เริ่มหย่อนคล้อยเล็กน้อย | ![]() | ![]() |
6 เดือน - 1 ปี | หย่อนคล้อยเล็กน้อย | ![]() | ![]() | |
ฟิลเลอร์ | 6 เดือน - 1 ปี | หย่อนคล้อยเล็กน้อย | ![]() | ![]() |
เลเซอร์ | 3 - 6 เดือน | หย่อนคล้อยเล็กน้อย | ![]() | ![]() |
ไฮฟู่ | 4 - 6 เดือน | หย่อนคล้อยเล็กน้อย - ปานกลาง | ![]() | ![]() |
อัลเทอร่า | 1 ปี | หย่อนคล้อยเล็กน้อย - ปานกลาง | ![]() | ![]() |
เทอร์มาจ | 1 – 2 ปี | หย่อนคล้อยเล็กน้อย - ปานกลาง | ![]() | ![]() |
ร้อยไหม | 6 เดือน - 2 ปี | หย่อนคล้อยปานกลาง - มาก | ![]() | ![]() |
ผ่าตัด | ถาวร | หย่อนคล้อยมาก | ![]() | ![]() |

INNO MODELA 7 ส่วนผสมจากพืชธรรมชาติ 5 ส่วนผสมทรงประสิทธิภาพในการ " ลดเซลลูไลท์ "
ว่านหางจระเข้ออร์แกนิค สายพันธุ์อิตาลี (ALOE VERA) อุดมด้วยสาร Quercetin ช่วยเพิ่มการเผาพลาญของเซลล์ไขมัน
ไทโรซีน (TYROSINE) เป็นกรดอะมิโนที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ (T3,T4) ซึ่งจำเป็นในกระบวนการเมตาบอลิซึมของไขมัน
เกาลัดม้า (HORSE CHESTNUT) สารสกัดสำคัญจากเกาลัดม้าอย่าง Aescin มีส่วนช่วยจัดการกับปัญหาเซลลูไลท์ เพิ่มการไหลเวียนโลหิตเเละระบบน้ำเหลือง ลดไขมันและอาการบวมน้ำ
อะดีโนซีนไดฟอสเฟต (ADENOSINE DIPHOSPHATE) ช่วยเร่งการเผาพลาญไขมัน เพื่อสร้างพลังงานให้แก่เซลล์
วิตามินบี3 (VITAMIN B3) หรือไนอาซินาไมด์ ช่วยเร่งกระบวนการสลายไขมันได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
2 ส่วนผสมสำคัญที่ช่วย ป้องกันการกลับมาของไขมัน
สาหร่ายสีน้ำตาล (BLADDER WRACK) สารสำคัญอย่าง Fucoidan ที่ช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ไขมัน ส่งผลให้ไขมันใหม่กลับมาได้ช้าลง
วิตามินอี (VITAMIN E) ต้านอนุมูลอิสระ ลดการบาดเจ็บของเซลล์ผิว ป้องกันการเกิดปัญหาเซลลูไลท์
สนใจสินค้าของ INNO MODELA สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ 061-5325495 หรือ กดเเอด Line ด้านล่างได้เลยค่ะ