ไฟเบอร์ ทางเลือกสุขภาพของคนหุ่นดี
ถ้าอยากหุ่นดี หลายๆคนคงนึกถึงสิ่งนี้
แต่รู้หรือไหมประโยชน์ที่แท้จริงของไฟเบอร์คืออะไร ?
ช่วยให้น้ำหนักลดได้อย่างไร ?
รับประทานไฟเบอร์เยอะเกินไปส่งผลเสียต่อร่างกายหรือไม่ ?
ในยุคปัจจุบันการทานไฟเบอร์เพื่อช่วยขับถ่ายถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั้นยากที่จะได้รับไฟเบอร์จากแหล่งอาหารได้อย่างเพียงพอแล้วการทานไฟเบอร์มีประโยชน์อย่างไรหลายท่านคงได้ยินมาว่าการทานไฟเบอร์ช่วยทำให้ผอมได้นั้นจริงไหม ถ้าหากทานบ่อยๆ จะเกิดผลเสียต่อร่างกายหรือไม่
มาค้นหาคำตอบการทานไฟเบอร์ให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์มากที่สุดไปกับอินโนพร้อมเคล็ด(ไม่)ลับสำหรับผู้ที่อยากมีรูปร่างที่ดีมาฝากกันค่ะ
ประโยชน์ของการทานไฟเบอร์
- ช่วยทำให้ขับถ่ายคล่องขึ้น สำหรับชนิดที่ไม่ละลายน้ำจะเข้าไปทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกระตุ้นระบบขับถ่าย การรับประทานไฟเบอร์อย่างเพียงพอในแต่ละวันจะช่วยลดปัญหาท้องผูก ลดความเสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร ช่วยล้างสารพิษในลำไส้ กำจัดของเสียรวมถึงลดโอกาสการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
- ช่วยทำให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน ทานได้น้อยลง ไฟเบอร์ยังทำหน้าที่เป็นฟองน้ำพองตัวและดูดซึมน้ำเอาไว้ แย่งพื้นที่ภายในระบบทางเดินอาหารให้เรารับประทานอาหารได้น้อยลง แต่อิ่มนานขึ้น ยิ่งหากการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมร่วมกับการออกกำลังกายด้วยยิ่งทำให้การลดน้ำหนักได้ผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ช่วยทำให้อิ่มท้องแบบ 0 แคลอรี่ลดการดูดซึมในระหว่างเดินทาง ทำให้เราได้รับพลังงานจากอาหารที่ไม่มากเกินไป การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงช่วยลดความอ้วนได้จริงจากการทดลองพบว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี ไฟเบอร์อย่างน้อย 2 กรัมขึ้นไป ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้
- ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดให้น้อยลง ในกลุ่มที่เป็นโรคไขมันในเลือดสูง การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ร่วมกับยารักษาจะทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดอยู่ในระดับที่คงที่ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคตได้
- ไฟเบอร์ชนิดที่ละลายได้ในน้ำ จะทำหน้าที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดการใช้อินซูลินในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและในกลุ่มคนปกติจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้เช่นกัน
ไฟเบอร์ส่งผลต่อระบบการย่อยอาหารและช่วยลดความอ้วนได้อย่างไร?
ผลด้านระบบการย่อยอาหาร
ไฟเบอร์มี 2 ประเภทหลักๆ แต่ละประเภทมีบทบาทในระบบการย่อยอาหารที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ: ช่วยปรับสมดุลค่า pH ในลำไส้ ป้องกันการอักเสบของลำไส้ ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระและช่วยให้อาหารผ่านทางกระเพาะอาหารและลำไส้ได้เร็วขึ้น
2. เส้นใยที่ละลายน้ำได้: จะดูดน้ำและกลายเป็นสารคล้ายเจลกับอาหารเมื่อถูกย่อย ช่วยชะลอการย่อยของอาหารทำให้รู้สึกอิ่มเร็วซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้
ผลด้านการลดความอ้วน
- ไฟเบอร์ ช่วยให้อาหารเดินทางเร็วขึ้นและมีเวลาอยู่ในระบบทางเดินอาหารสั้นลงจึงช่วยลดการดูดซึมโดยจับตัวกับไขมัน
- จากหลายงานวิจัยพบว่าการรับประทานไฟเบอร์อย่างน้อย 2 กรัม ขึ้นไป ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้
- ไฟเบอร์ ไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหารทำให้ลดความอยากอาหารและรับประทานอาหารได้น้อยลง หากใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกายร่วมด้วยจะยิ่งให้ผลดีในเรื่องของการลดน้ำหนัก
“ไฟเบอร์” ทานมากเกินไปส่งผลเสียอย่างไร ?
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นชั่วคราว
- มีลมในกระเพาะอาหาร
- ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ
- คลื่นไส้อาเจียน มีไข้สูงหรือไม่สามารถอุจจาระได้
- ลำไส้แปรปรวน เช่น ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูก เป็นต้น
- ลำไส้อุดตัน
วิธีแก้ไขเมื่อทานไฟเบอร์มากเกินไป ดังนี้
- ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไฟเบอร์สูง
- ทานอาหารอ่อนๆ ไม่ปรุงรส
- ไม่เพิ่มไฟเบอร์ด้วยอาหารเสริม
- ทานอาหารที่มีอินูลินและสารสกัดจากรากชิโครี่
- ออกกำลังกายแบบเบา ๆ
7 ส่วนผสมพิเศษจาก INNOMODELA
5 ส่วนผสมทรงประสิทธิภาพในการลดเซลลูไลท์
- ว่านหางจระเข้ออร์แกนิค สายพันธุ์อิตาลี (ALOE VERA) อุดมด้วยสาร Quercetin ช่วยเพิ่มการเผาพลาญของเซลล์ไขมัน
- ไทโรซีน (TYROSINE) เป็นกรดอะมิโนที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ (T3,T4) ซึ่งจำเป็นในกระบวนการเมตาบอลิซึมของไขมัน
- เกาลัดม้า (HORSE CHESTNUT) สารสกัดสำคัญจากเกาลัดม้าอย่าง Aescin มีส่วนช่วยจัดการกับปัญหาเซลลูไลท์ เพิ่มการไหลเวียนโลหิตเเละระบบน้ำเหลือง ลดไขมันและอาการบวมน้ำ
- อะดีโนซีนไดฟอสเฟต (ADENOSINE DIPHOSPHATE) ช่วยเร่งการเผาพลาญไขมัน เพื่อสร้างพลังงานให้แก่เซลล์
- วิตามินบี3 (VITAMIN B3) หรือไนอาซินาไมด์ ช่วยเร่งกระบวนการสลายไขมันได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
2 ส่วนผสมสำคัญที่ช่วยป้องกันการกลับมาของไขมัน
- สาหร่ายสีน้ำตาล(BLADDER WRACK): สารสำคัญอย่าง Fucoidan ที่ช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ไขมัน ส่งผลให้ไขมันใหม่กลับมาได้ช้าลง
- วิตามินอี (VITAMIN E): ต้านอนุมูลอิสระ ลดการบาดเจ็บของเซลล์ผิว ป้องกันการเกิดปัญหาเซลลูไลท์