มาทำความรู้จักกับ “หลุมสิว” กันให้มากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีการรักษา
หลุมสิวในความเป็นจริงหลุมบนผิวหน้าส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบของสิว การอักเสบนี้จะกินลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ทำให้คอลลาเจน (Collagen) ในส่วนนั้นถูกทำลาย เมื่อการอักเสบหายไป แต่กลับไม่มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาซ่อมแซม หรือการซ่อมแซมเป็นไปได้ช้า จึงทำให้เกิดโพรง ส่งผลให้เกิดการยุบตัวของผิวจนในที่สุดก็กลายเป็นพังผืด เป็นหลุมบนผิวหน้าทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
หลุมสิว แบ่งตามความรุนแรง 3 ระดับ
-Rolling scar (ระดับทั่วไป) รอยหลุมชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นหลุมสิวแบบตื้นๆเป็นแอ่งเว้าลงไป ความลึกของหลุมแค่ส่วนบนของผิวเพียงเล็กน้อย การรักษาหลุมสิวระดับนี้ง่ายกว่าระดับอื่นๆ
-Box Scar (ระดับรุนแรงปานกลาง) รอยหลุมชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นบ่อ มีขอบชัดเจนและมีขนาดกว้างกว่า Icepick Scar แต่มีความตื้นของฐานหลุมน้อยกว่า เพราะความลึกแค่ชั้นผิว ไม่ถึงชั้นรูขุมขน
-Icepick Scar (ระดับรุนแรงที่สุด) รอยหลุมจะมีลักษณะลึก แคบ ขอบชัด ฐานหลุมมักเรียวแหลมลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้หรือชั้นใต้ผิวหนัง จึงเป็นรอยหลุม การรักษาหลุมสิวระดับนี้ยากและต้องใช้เวลานานที่สุด
รักษาหลุมสิวด้วยตัวเองง่ายๆ
การทายา ส่วนมากยาที่นำมาใช้จะมีหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกรดวิตามินเอ, TCA , AHA, BHA, PHA ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิว เร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนมาทดแทน แต่เนื่องจากตัวยามีกรดเป็นส่วนผสมจึงอาจทำให้ผิวนั้นบางลงและอาจลอกเป็นสะเก็ดได้
เหมาะสำหรับหลุมสิวแบบ: Rolling scar
Filler หลุมสิว ฟิลเลอร์ (Filler)
นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกแทน “สารเติมเต็ม” โดยสารที่นิยมนำมาใช้กันมากก็คือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ส่วนใหญ่แล้วการ รักษาหลุมสิว ด้วยวิธีนี้จะค่อนข้างได้ผลประมาณ 30-70% เลยทีเดียว เพราะมันเป็นการฉีดสารเข้าไปเพื่อเติมเต็มรอยหลุมในทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อขึ้นมาเอง
เหมาะสำหรับหลุมสิวแบบ Rolling scar และ Box scar
Subcision
เป็นการรักษาหลุมสิวด้วยการเลาะพังผืดใต้ผิวหนังด้วยเข็มตัดพังผืดพิเศษ (Nokor Needle) เป็นเข็มที่มีลักษณะพิเศษตรงที่บริเวณปลายเข็มจะเป็นมีดขนาดเล็กไว้ใช้สำหรับตัด เซาะ พังผืดบริเวณหลุมสิว เพื่อให้เกิดแผลหรือช่องว่างใต้หลุมสิว และเป็นการกระตุ้นชั้นผิวของเราให้มีการรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกเซาะผิว โดยผิวจะเร่งการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณหลุมสิวให้เกิดใหม่
เหมาะสำหรับหลุมสิวแบบ: Rolling scar และ Box scar ที่ทั้งลึกและตื้น
Mesotherapy
เป็นการฉีดสารที่มีประโยชน์ต่อผิว เข้าไปที่ชั้นผิว โดยการทำงานคือจะเข้าไปช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูผิวให้เต่งตึงขึ้น ผิวเนียนเรียบ ลดริ้วรอยจุดด่างรอยดำ ร่องรอยสิว หลุมสิว ความฟู โดยผลลัพธ์นั้นขึ้นอยู่กับประโยชน์ของสารสำคัญแต่ละชนิดที่อยู่ในตัวยานั้นๆ ข้อดีอย่างหนึ่งคือ สามารถเห็นผลได้รวดเร็วกว่าการทำทรีทเมนท์หรือการทา
เหมาะสำหรับหลุมสิวแบบ: Rolling, Box scar, Icepick เหมาะสำหรับ: การรักษาร่วมกับหลุมสิวทุกประเภท
PRP
เป็นการคัดสรรเอาส่วนสำคัญของเลือดที่มี Growth Factor และเซลล์ที่เป็นปัจจัยหลักในการซ่อมแซมแผล โดย PRP จะใช้รักษาร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้แผลซ่อมแซมได้เร็วมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยลง พร้อมทั้งลดจำนวนครั้งของการรักษาได้อีกด้วย
เหมาะสำหรับหลุมสิวแบบ: Rolling, Box scar, Icepick เหมาะสำหรับ: การรักษาร่วมกับหลุมสิวทุกประเภท
การรักษาหลุมสิวด้วยเครื่องมือ หลักการแล้วจะเป็นการทำลายพังพืดที่ดึงรั้ง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ใช้เวลาในการฟื้นฟูมาก-น้อยขึ้นอยู่กับแต่ละเทคโนโลยี โดยหลักๆ นวัตกรรมการรักษาหลุมสิว มีดังนี้
-Derma Pen /Derma Roller
เป็นการนำหัวเครื่องมือที่เป็นส่วนของเข็มมาจิ้มลงไปในชั้นผิว หลังจากนั้นจะเกิดการอักเสบของชั้นผิว ร่างกายจะเกิดกระบวนการซ่อมแซมผิวใหม่ เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ จึงทำให้ผิวสร้างตัวและฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น หลุมสิวจึงตื้นขึ้น
-IPL (Intense pulsed light)
เป็นการใช้แสงหลายความยาวคลื่นยิงเข้าไปบริเวณที่เกิดหลุมสิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เหมาะสำหรับหลุมสิวแบบ: Rolling scar ถ้านำไปใช้กับหลุมสิวแบบอื่น อาจเห็นผลช้ามากหรือแทบไม่เห็นผลเลย
-Resurfacing Laser
คือเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติในการผลัดผิวชั้นตื้น เช่น กลุ่ม Fraxel, Erbium หรือ CO2 laserประเภทนี้นอกจากใช้ในการรักษาผิวหน้าแล้วยังใช้กับการลบรอยสัก และกำจัดไฝ อีกด้วย หลังรับการรักษาด้วยเลเซอร์นี้ ผิวชั้นบนจะถูกทำลายไป ดังนั้นจะมีอาการแดงและแสบ ง่ายต่อการแพ้ อักเสบ จึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
-คลื่น PF (Radio frequency – RF)
วิธีนี้เป็นการ รักษาหลุมสิว โดยการส่งคลื่นวิทยุลงไปที่ชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เกิดการทำลายผิวหนัง (Ablation) บริเวณนั้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน วิธีนี้อาจรู้สึกเจ็บขณะทำ