top of page

คอลลาเจนแต่ละบริเวณในร่างกายเหมือนหรือต่างกัน?

Updated: Dec 26, 2022


เรามักจะได้ยินบ่อยครั้งว่า “หากอยากให้ผิวสวย เนียน เด้ง ต้องทานคอลลาเจน” และมักได้ยินแพทย์แนะนำให้ผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมทานคอลลาเจนเพื่อ “ช่วยรักษาและบรรเทาอาการข้อเสื่อม” บ่อยครั้งเช่นกัน แต่สรรพคุณทั้งสองนี้ได้มาจากคอลลาเจนชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกันอย่างไร ไปดูกัน


“คอลลาเจน” คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ต่อกันเป็นเส้นใยยาวๆ พบในร่างกายมากถึง 30-40% และมีความสำคัญต่อเซลล์ในร่างกาย หากขาดคอลลาเจนไป เซลล์ในร่างกายจะเชื่อมต่อกันไม่สมบูรณ์

หน้าที่หลักๆของคอลลาเจน

-ผิวพรรณ : ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น รักษาความชุ่มชื้นของผิว ยับยั้งริ้วรอยก่อนวัย และช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว

-กระดูก : ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูก กระดูกอ่อน และข้อต่อต่างๆ ให้ร่างกายกล้ามเนื้อเกิดความยืดหยุ่น และช่วยบรรเทาอาการปวดหัวเข้า ปวดข้อต่อ

-เส้นผมและเล็บ : บำรุงเส้นผมให้ผมหนาขึ้น ไม่เปราะบางขาดง่าย และบำรุงเล็บให้แข็งแรงไม่ฉีกหักง่าย


Collagen สำหรับผิว (Collagen Type 1)

คอลลาเจนชนิดนี้พบในผิวกว่า 90% และยังพบในเส้นเอ็น หลอดเลือด อีกทั้งยังเป็นคอลลาเจน (Collagen Type 1) ชนิดที่พบมากที่สุดในร่างกายด้วย มีความสำคัญในเรื่องของเพิ่มความยืดหยุ่น ป้องกันเนื้อเยื้อไม่ให้ฉีกขาด และช่วยสมานแผลบนผิวหนังได้ดี ด้วยเหตุนี้ผิวของผู้ที่มีคอลลาเจนอย่างเพียงพอจึงสวย เนียน ไร้ริ้วรอยนั่นเอง

Collagen สำหรับข้อ (Collagen Type 2) แน่นอนว่าคอลลาเจนสำหรับข้อ ต้องถูกพบมากในข้อกระดูกอ่อน (Collagen Type2) และทำหน้าที่แตกต่างจากคอลลาเจนสำหรับผิวอย่างสิ้นเชิง โดยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์ของเซลล์ให้มีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นจึงสามารถช่วยในการสร้างกระดูกอ่อนและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอบริเวณข้อได้ นอกจากนี้ยังมีการวิจัยที่พบว่า หากนำโปรตีนคอลลาเจนมาผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้คอลลาเจนมีขนาดและความยาวสั้นลง เพื่อทำให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนและสามารถนำคอลลาเจนไปใช้ได้ในกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้กับข้อกระดูกได้ดียิ่งขึ้น


พฤติกรรมที่ช่วยรักษาคอลลาเจนในร่างกาย

-หลีกเลี่ยงแสงแดด

-ลดความเครียดหรือเครียดให้น้อยลง

-นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

-กินอาหารที่มีประโยชน์ หรือกินให้ครบ 5 หมู่

-ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว



bottom of page