top of page

"กฎ 2 ป้อง" เพื่อรับมือกับไวรัสและมลพิษ

Updated: Dec 26, 2022

ป้องกันจากภายนอก ปกป้องจากภายในร่างกาย



-หากมีความจำเป็นต้องเดินทางออกไปข้างนอก ในพื้นที่แออัด หรือสถานที่ที่มีคนหนาแน่น ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง และหมั่นเปลี่ยน หน้ากากอนามัยบ่อยๆ หากเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง และควรม้วนเก็บด้านที่ใช้แล้วไว้ด้านในพร้อมกับใช้สายเกี่ยวมัดหน้ากากไว้ เพื่อป้องกันเชื้อจากหน้ากากแพร่กระจาย

-เมื่อมีอาการไอหรือและจาม ควรใช้กระดาษทิชชู่ หรือใช้ต้นแขนด้านใน ปิดปาก เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายสู่ผู้อื่น

-หมั่นล้างมือด้วยสบู่ที่ถูกวีธีอย่างน้อย 20 วินาทีควรล้างมือ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

-หลีกเลี่ยงสถานที่คนหนาแน่นและการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ

ในพื้นที่แออัดเราไม่สามารถรู้ได้ว่า ในฝูงชนจำนวนมากนั้น มีผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆหรือไม่ การหลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด ที่มีผู้คนจำนวนมาก จึงสามารถช่วยป้องกันทั้งตนเองและผู้อื่น



-ควรหาเวลาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยให้สดชื่นผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง ช่วยให้ปอดและหัวใจทำงานได้ดี พร้อมกับการพักผ่อนด้วยการนอนหลับให้ได้วันละ6-8ชั่วโมง การนอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียงไม่เพียงแต่ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังทำให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นแจ่มใส มีพลังในการทำงานและการใช้ชีวิต

-ควรประกอบอาหารประเภทเนื้อสัตว์ให้สะอาดและสุก โดยผ่านกระบวนการความร้อนทุกครั้งให้ครบทั้ง5หมู่

และการรับประทานวิตามินสารอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น ป้องกันไข้หวัด ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ดังเช่น วิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งมีกลไกต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเซลล์เยื่อบุต่าง ๆ ในร่างกาย ส่งเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาวหลากหลายชนิด (White Blood Cells) ในการทำลายเชื้อโรคและแบคทีเรีย

**มีงานวิจัย พบว่า การรับประทานวิตามินซีทุกวันในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม/วัน ช่วยป้องกันการเป็นไข้หวัด (Influenza) ในผู้ที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก หรือ ผู้ที่มีความเครียดสูง นอกจากนี้ ยังช่วยลดความรุนแรง (Severity) และ ลดระยะเวลา (Duration) ของการเป็นไข้หวัดได้อีกด้วย

-Vitamin IV Drip คือ การให้วิตามินทางหลอดเลือดดำ หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า “IV Therapy" ย่อมาจาก "Intravenous Therapy” หมายถึง การให้วิตามินและสารน้ำผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกาย เพื่อเติมวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายโดยตรง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบต่าง ๆ รวมถึงจะช่วยฟื้นฟูการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้

ข้อดีของการให้ Vitamin IV Drip คือ เป็นอีกทางทางเลือกในการเติมวิตามินที่จำเป็นเข้าสู่ร่างกายร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถรับวิตามินได้มากกว่า ในขณะที่การรับประทานวิตามินนั้น พบว่า มีเพียงบางส่วนที่สามารถดูดซึมได้เท่านั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นกับความสามารถของการดูดซึมของร่างกายแต่ละคน

Immune Booster Vitamin IV drip: เป็นการเติมวิตามินซี วิตามินบีชนิดต่าง ๆ เช่น บีรวม บี 6 และ กรดอมิโน (N-Acetyl-Cysteine: NAC) ที่ช่วยในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย และบู้สท์การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายในการต่อต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ให้กับร่างกาย

2 views0 comments
bottom of page