top of page

ไม่อยาก หน้าพัง ต้องทำผิวให้ปัง โด่งดังแบบมะริ่งกิ่งก่อง สะระน๊องก่องแก่ง

Updated: Dec 26, 2022

" Skincare" ที่ห้ามใช้ร่วมกัน


ไม่ว่าคุณผู้หญิงหรือคุรผู้ชายก็ต้องรักผิวของตัวเองเป็นพิเศษ เวลาจะใช้สกินแคร์แน่นอนว่าใช้ตัวเดียวตั้งแต่เช้าจรดเย็นเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องขอมีเดย์ครีม ไนท์ครีมบ้างแหละ แถมบางคนก็ต้องการจะปรนนิบัติผิวหลายขั้นตอนหน่อย จนเผลอใช้ส่วนผสมในสกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ด้วยกันเข้า จนเกิดเป็นปัญหาผิวตามมาได้ งั้นมาดูกันดีกว่าค่ะว่าจะมีอินเกรเดียนอะไรในสกินแคร์บ้างที่ควรจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ใช้พร้อมกัน!



Vitamin C + Benzoyl Peroxide (BPO)

ถ้าคนเป็นสิวบ่อย ๆ น่าจะคุ้นเคยกับ Benzoyl Peroxide หรือ BPO ซึ่งถ้านำมาใช้คู่กับวิตามินซีจะทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งจะทำลายผิวของเรา นอกจากนี้ตัว Benzoyl Peroxide ยังค่อนข้างกัดผิว ละลายหัวสิว จนบางคนมีอาการแสบ แดง คัน ระคายเคืองอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอตัววิตามินซีเข้าไปยิ่งพังไปกันใหญ่ ถ้าอยากใช้ vitamin C จริงๆ แนะนำให้รอให้เลิกใช้ Benzoyl Peroxide เสียก่อน



Beta Hydroxy Acid (BHA) + Alpha Hydroxy Acid (AHA)

เพราะทั้งสองตัวนี้จริงๆเป็นกลุ่มของกรดจากธรรมชาติ กลุ่ม AHA เช่น Citric Acid, Glycolic Acid, Lactic Acid และ Mandelic Acid ส่วน BHA เช่น Salicylic Acid ยิ่งถ้ายี่ห้อไหนที่ใส่ความเข้มข้นสูงๆอยู่แล้ว ยิ่งไม่ควรใช้ด้วยกันเลย เพราะแทนที่จุดด่างดำ ริ้วรอยจะหาย กลายเป็นผิวพัง เซลล์ผิวแห้ง สูญเสียน้ำเข้าไปกันใหญ่ ในทางที่ดีควรเลือกใช้แค่ผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวนึงเท่านั้น และไม่ควรใช้ติดต่อกันทุกวัน



Retinol + Vitamin C เพราะทั้งสองตัวทำงานที่ค่า pH ไม่เท่ากัน โดยเรตินอลจะทำงานได้ดีที่ pH เท่ากับ 5.5-6 ส่วนวิตามินซีจะทำงานได้ดีที่ pH น้อยกว่า 3 ทำให้แทนที่จะทาสองตัวแล้วได้ประสิทธิภาพดีขึ้น กลายเป็นไปลดทอนประสิทธิภาพของทั้งสองตัวแทน ฉะนั้นถ้าอยากใช้ผลิตภัณฑ์ให้คุ้มค่า จึงไม่ควรใช้ร่วมกัน



Vitamin C + AHAs ทั้งสองตัวนี้จะทำให้ค่า pH ของผิวเสียสมดุลเนื่องจากความเป็นกรดที่สูงเกินไป แต่ถ้าถามว่าใช้แล้วอันตรายไหม ระคายเคืองไหม ไม่ได้ส่งผลถึงขนาดนั้น แต่เจ้าตัว AHAs จะทำให้ประสิทธิภาพของวิตามินซีลดลงเท่านั้นเอง ดังนั้นสกินแคร์ที่เราซื้อมาแพงแสนแพงนั้น จะไม่สามารถออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพนั่นเอง

2 views0 comments
bottom of page