เปลี่ยนพุงย้อย ให้กลายเป็นพุงราบ ได้ไม่ยาก
Updated: Dec 26, 2022
รวมพฤติกรรมเสี่ยง พร้อมวิธีลดไขมันหน้าท้องฉบับเห็นผล
เคยไหมออกกำลังกายหรือกินคลีนเท่าไร สัดส่วนก็ค่อยๆขยับลงทีละน้อยมาก จึงทำให้ใครหลายๆคนเกิดอาการท้อ เบื่อไม่อยากลดน้ำหนักอีกต่อไป วันนี้เรามีวิธีช่วยกำจัดไขมันหน้าท้องด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและปลอดภัย เพื่อทำให้ไขมันหน้าท้องของคุณหายไป นอกจากจะทำให้คุณไม่รู้สึกอึดอัดแล้วยังได้ความมั่นใจและสนุกสนานกับการแต่งตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
พฤติกรรมที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดพุง/ไขมันหน้าท้อง
-มีพฤติกรรมชอบกินของหวาน/ อาหารพวก Junk food / ของทอด
-มีพฤติกรรมชอบกินอาหารบุฟเฟต์
-มีพฤติกรรมกินแต่เนื้อ กินแต่แป้ง ไม่ชอบกินผัก
-ไม่ออกกำลังกาย
-พักผ่อนไม่เพียงพอ
วิธีลดหน้าท้องแบบธรรมชาติ
-หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารแปรรูป และน้ำตาล
-หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือขนมตอนกลางคืน เพราะการรับประทานตอนกลางคืน จะทำให้คุณไม่สามารถเผาผลาญไขมันออกไปได้ เพราะช่วงกลางคืนเราทานแล้วก็นอน แทบไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรที่เผาผลาญพลังงานอีกแล้วนั่นเอง
-หมั่นออกกำลังกาย อย่างน้อยวันละ 30 นาที เป็นเวลา 3-5 ครั้ง/สัปดาห์
-นอนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากการนอนไม่เพียงพอและอาการอ่อนเพลีย อาจส่งผลให้รับประทานอาหารว่างหรืออาหารระหว่างมื้อมากขึ้น
-ควรดื่มน้ำสะอาดประมาณวันละ 2 ลิตร เพราะจะช่วยคลีนไขมัน แบคทีเรียต่างๆในช่องท้องเราได้
การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์
1. mesofat เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกิน วิธีหนึ่งด้วยการที่แพทย์จะใช้เข็มฉีดยา ฉีดส่งยา ซึ่งมีสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมในชั้นไขมัน โดยใช้กลุ่มยาหลายๆ ตัว เช่น Aesculus Hippocastanum, Phosphatidylcholine, Deoxycholate, L-carnitine, Vitamin B complex, Amino acids, Minerals ฯลฯ โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่เรียกว่า เมโสเธอราพี (Mesotherapy) นั่นเอง
2. Cryolipolysis การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นการทำลายเซลล์ไขมันในระดับจุดเยือกแข็งลงไปใต้ชั้นผิวหนังเข้าสู่ชั้นไขมันโดยไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ ลดความหนาของชั้นไขมันส่วนเกิน หน้าท้อง เซลล์ไขมันที่ถูกคลื่นความเย็นจะเกิดการตายและถูกกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไป เพราะเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังมีความอ่อนแอต่อความเย็นเป็นพิเศษ กระบวนการดังกล่าวนั้นเป็นแบบ non-invasive จึงไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น และไม่เจ็บ
3. RF หรือ Radio Frequency เป็นการส่งคลื่นความถี่ที่มีความถี่เดียวกับคลื่นวิทยุผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังบริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน ทำให้อุณหภูมิของผิวหนังในบริเวณนั้นสูงขึ้นประมาณ 3-5 องศา ซึ่งจะสามารถสลายไขมันส่วนเกินออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังทำให้ผิวหนังยกกระชับ มีความตึง เรียบเนียนมากขึ้น ช่วยลดปัญหาเซลลูไลท์ เห็นผลชัดเจนหลังทำทันที
4. High-Intensity Focused Ultrasound หรือที่เราคุ้นหูเคยได้ยินว่า HIFU เป็นพลังงานอัลตร้าซาวด์ ที่มีความเข้มข้นสูงเจาะจงลงไปสลายเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง ลึก 1-2 ซ.ม. โดยพลังงานที่มีความเจาะจงกับเซลล์ไขมันจึงไม่ทำลายผิวชั้นบน หรือเนื้อเยื่อรอบข้าง ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น ซึ่งเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายนี้จะค่อยๆถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนและขับเป็นของเสีย ออกจากร่างกาย ข้อดีคือ ทำครั้งเดียวเห็นผลชัดเจน ข้อเสียคือเจ็บ และอาจมีอาการช้ำเล็กน้อย
5. High-Intensity Focused Electromagnetic หรือ HIFEM ลดไขมันและสร้างกล้ามเนื้อ คล้ายรูปแบบของการออกกำลังกาย จากพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีความเข้มสูงเข้าไป จึงทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งตัวในแบบที่การออกกำลังกายปกติทำไม่ได้ และเมื่อกล้ามเนื้อถูกบังคับ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน จึงทำให้เกิดการสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมันในเวลาเดียวกัน