เจาะลึก "โบทูลินั่ม ท็อกซิน" คุณประโยชน์ที่มากกว่าด้านความงาม
Updated: Dec 26, 2022
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อเรียกของสาร Botulinum Toxin เป็นโปรตีนที่สร้างจากแบคทีเรีย ที่มีชื่อว่า “Clostridium Botulinum” ซึ่งก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท ทำให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ เกิดสภาวะกล้ามเนื้อหยุดทำงานชั่วคราว และเกิดการคลายตัว โดยจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน หากได้รับสารพิษชนิดนี้ในปริมาณมาก ๆ จากการปนเปื้อนในอาหาร เช่น อาหารกระป๋อง อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้จากการที่กล้ามเนื้อกระบังลมหยุดทำงาน
แม้ในปัจจุบันการใช้โบท็อกซ์ในด้านความงามจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เช่น ถูกนำมาลดริ้วรอย ลดกล้ามเนื้อกรามเพื่อให้ใบหน้าเข้ารูป แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วโบท็อกซ์นั้นยังสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากกว่าที่ใครๆ คิด ตามมาดูกันเลย อ้างอิงมาจากบทความ Dr. Long แห่ง Alabama Ophthalmology Associates
ภาวะความผิดปกติที่เกิดจากการทำงานมากเกินไปของกล้ามเนื้อ เช่น ตาเข (Strabismus) หนังตากระตุก (Blepharospasm) กล้ามเนื้อคอเกร็งตัว(Cervical dystonia) ส่วนใหญ่โรคนี้มีทั้งการเป็นชั่วคราวเเละถาวรก็มี การฉีดโบทูลินัมท็อกซิน ลดการทำงานของกล้ามเนื้อ สามารถลดการกระตุกได้อย่างเห็นผล
แก้ไขความผิดปกติของระบบควบคุมการขับปัสสาวะ หรืออาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ การฉีดโบทูลินัมท็อกซิน เข้าไปในกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะคลายตัวจากการหดเกร็ง กระเพาะปัสสาวะกักเก็บน้ำปัสสาวะได้มากขึ้น และลดอาการปวดปัสสาวะฉับพลันหรือปัสสาวะเล็ดราดให้น้อยลง โดยยาจะให้ผลการรักษาประมาณ 6-9 เดือน จากนั้นอาจต้องฉีดซ้ำหากจำเป็น ดังนั้น การฉีดยาโบท็อกซ์จึงเป็นการช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแต่ไม่ใช่การรักษาเพื่อให้หายขาด
การปวดศรีษะจากไมเกรน (Migrain) หรือ การปวดศีรษะจากความเครียด (Tension) การฉีดโบทูลินัมท็อกซินเป็นอีกวิธีหนึ่งที่แพทย์นำมาใช้รักษา ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว เชื่อว่าสามารถยับยั้งปลายประสาท ที่ส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมองด้วย จึงลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะได้เป็นอย่างดี และอาจไม่จำเป็นต้องรับประทานยาแก้ปวดศีรษะเป็นประจำ
การฉีดโบทูลินัมท็อกซินเข้าสู่กล้ามเนื้อที่บีบเกร็งนั้น เป็นที่แพร่หลายในต่างประเทศเป็นอย่างมาก ยังมีคุณสมบัติในการคลายกล้ามเนื้อที่บีบเกร็ง รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านร่างกายไม่สดชื่น ปวดเมื่อยตามร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อคอแข็ง ฯลฯ ดังนั้น เมื่อนำสารโบทูลินั่มท็อกซินมาใช้กับผู้ที่มีปัญหาปวดกล้ามเนื้อเฉพาะจุดจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวจากที่หดเกร็ง ทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้น
ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis)
คือการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินเข้าไปบริเวณที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ เพื่อให้สารโบทูลินัมท็อกซินไปขวางการทำงานของต่อมเหงื่อ และต่อมกลิ่นให้ทำงานลดลง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 6 – 8 เดือนขึ้นไป ในการฉีดจะต้องมีการคำนวณปริมาณของสาร และบริเวณที่ฉีดอย่างแม่นยำจึงจะสามารถได้ผลดี