อย่า! ให้ริ้วรอย บอกอายุเผยเคล็ดลับ!วิธีการดูแลรักษาผิว ให้อ่อนกว่าวัย
Updated: 6 days ago

สารบัญ
วิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
โครงสร้างผิว แบ่งออกเป็น 3 ชั้นย่อย
หนังกำพร้า (Epidermis)
เป็นชั้นที่อยู่นอกสุดทำหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ สิ่งแปลกปลอมและแบคทีเรีย ช่วยควบคุมอุณภูมิร่างกาย ปรับสมดุล pH และยังช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวอีกด้วย
หนังแท้ (Dermis)
ชั้นหนังแท้เป็นชั้นที่บ่งบอกถึงสุภาพผิว องค์ประกอบหลักได้แก่คอลลาเจนและอิลาสติน ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงและความยืดหยุ่น และยังมีไฮยาลูรอนทำหน้าที่กักเก็บน้ำให้ผิวและเชื่อมคอลลาเจนกับอิลาสตินไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ชั้นหนังแท้ยังเป็นที่อยู่ของต่อมน้ำเหลือง เส้นประสาท เซลล์รากผมอีกด้วย
ชั้นใต้ผิวหนังหรือชั้นไขมัน (Subcutaneous) ประกอบด้วยเซลล์ไขมัน (adipocyte) จำนวนมาก ทำหน้าที่กักเก็บพลังงาน ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และเป็นเหมือนเบาะกันกระแทกให้กับอวัยวะภายใน

ริ้วรอยเกิดจากอะไร
ปัญหาผิวที่ต้องเจอกันแทบทุกคนเมื่ออายุมากขึ้น โดยสัญญาณปัญหาผิวแรกๆ ที่จะเริ่มเกิดขึ้นบนใบหน้าก็คือริ้วรอยตื้นๆ และพัฒนาเป็นริ้วรอยที่มีขนาดใหญ่และลึกขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยแบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยหลักๆ คือ
ปัจจัยภายใน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งก็คืออายุที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง เพราะเมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังจะบางลง ประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจนลดลงแต่อัตราการสลายคอลลาเจนยังคงเหมือนเดิม ทำให้โดยรวมปริมาณคอลลาเจนในผิวลดลง ผิวจึงขาดความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ผิวดูไม่เต่งตึงเปล่งปลั่งเหมือนตอนเด็กๆ นอกจากนี้ไฮยาลูรอนในผิวก็ลดลงเช่นกันทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดเป็นรอยเหี่ยวย่นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะริ้วรอยตีนกาบนใบหน้า
การเสื่อมของเซลล์
เมื่อเซลล์เสื่อมสภาพเซลล์จะมีปริมาณเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยคอลลาเจน (Metalloproteinase; MMP) ค่อนข้างสูงและมี TIMPs (Tissue inhibitors of metalloproteinases) ซึ่งเป็นตัวยับยั้งเอนไซม์ MMP ค่อนข้างต่ำ ทำให้การสร้างคอลลาเจนลดลง และอาจทำให้เกิดการฝ่อของผิวหนังชั้นหนังแท้ได้
การออกซิเดชั่น
การออกซิเดชั่นทำให้เกิดอนุมูลอิสระซึ่งจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ซึ่งเกิดจากการสันดาปพลังงานในร่างกาย
ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง
โดยปกติฮอร์โมนเอสโตรเจนสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในผิวหนังได้ เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงจึงทำให้ผิวขาดความแข็งแรง ความชุ่มชื้น
การเกิด AGEs สูงกว่าปกติ
ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกายรวมไปถึงคอลลาเจนเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานที่มีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ
ปัจจัยภายนอก ส่วนใหญ่เกิดจากแสงแดด (Photoaging) ซึ่งทำให้เกิดอนุมูลอิสระในผิวหนังมากขึ้น อนุมูลอิสระจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนภายใต้ผิว ทำให้ผิวหยาบแห้ง ขาดความยืดหยุ่น เกิดเป็นริ้วรอยในที่สุด นอกจากแสงแดดแล้วก็ยังเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การกินของหวานของทอด เป็นต้น
แสงแดด และ มลพิษทางอากาศ
ในแสงแดดจะมีรังสี UVA และ UVB ซึ่งก่อให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนภายใต้ผิว เช่นเดียวกับฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ ทำให้คนที่ทำงานกลางแจ้งนานๆ จึงมีสภาพผิวที่แห้งเหี่ยว หยาบกร้าน มีริ้วรอย
การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่จะทำให้ประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือดลดลง เลือดจึงไหลไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ได้ไม่ดี และยังทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังอีกด้วย ทำให้ผิวขาดความกระชับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้าน และยังกระตุ้นการเกิดสารอนุมูลอิสระซึ่งจะเข้าไปทำลายเซลล์ผิวทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เร่งให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าเร็วขึ้น
การแสดงออกทางสีหน้าบ่อย ๆ
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยก็คือการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม การหัวเราะ การขมวดคิ้ว ล้วนทำให้ริ้วรอยเกิดได้เร็วขึ้น เพราะการแสดงอารมณ์เป็นการกดที่เนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ เป็นเวลานานจนกระทั่งเนื้อเยื่อถูกทำลายลง ซึ่งโดยปกติร่างกายจะมีการสร้างเนื้อเยื่อเพื่อทดแทนเสมอ แต่เมื่ออายุมากขึ้นการสร้างใหม่จะน้อยลง จึงไม่เพียงพอต่อการทดแทน ทำให้เกิดเป็นร่องลึก
พฤติกรรมที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น
ผิวที่แห้งมักเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผิวที่ชุ่มชื้น การปล่อยให้ผิวแห้ง เช่น ทำความสะอาดหน้าบ่อย ถูขัดหน้าแรงๆ ไม่ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ดื่มน้ำน้อย อาจทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้
พฤติกรรมการกิน
การรับประทานขนม น้ำหวาน น้ำอัดลม ทำให้ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดมากกว่าปกติ เมื่อร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงร่างกายจะมีการสร้าง AGEs มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการไปเร่งกระบวนการการแก่ของเซลล์ ทำให้เกิดริ้วรอยผิวเหี่ยวย่นได้ นอกจากน้ำตาลแล้วการกินอาหารที่ปรุงด้วยความร้อนสูงเป็นเวลานานเช่น ของทอด อาหารปิ้งย่าง ก็เร่งกระบวนการ AGEs ได้เช่นกัน
ริ้วรอยเกิดบริเวณไหนได้บ้าง
ริ้วรอยทั่วใบหน้า ริ้วรอยเล็กๆ ปัจจัยหลักเกิดจากการสูญเสียความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิว

ริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหว่างคิ้ว เห็นชัดขึ้นเมื่อเลิกคิ้วหรือขมวดคิ้ว

ริ้วรอยหางตา หรือ ตีนกา มักเป็นริ้วรอยแรกๆ ที่เริ่มสังเกตเห็น เพราะผิวหนังบริเวณรอบดวงตาบอบบางกว่าบริเวณอื่นบนใบหน้าจึงเห็นริ้วรอยได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่ขยี้ตาบ่อย เช็ดตาแรงๆ ยิ้มแบบหยีตา จะเกิดตีนกาเร็ว

ริ้วรอยร่องแก้ม ริ้วรอยบริเวณมุมปาก มักจะสัมพันธ์กับการสูญเสียวอลลุ่มใต้ชั้นผิวและผิวที่หย่อนคล้อย และยิ่งเห็นชัดขึ้นเมื่อยิ้มหรือหัวเราะ

ริ้วรอยที่คอ เป็นริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้บ่อยไม่แพ้ริ้วรอยบนใบหน้า

วิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ โดยเฉพาะอายครีม เพราะสภาพผิวที่แห้งจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
- งดการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
- พักผ่อนให้เพียงพอ ผ่อนคลายความเครียด
- ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
- เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดของหวาน ของทอด
- ลดการแสดงสีหน้าที่มากเกินจำเป็น
วิธีรักษา
ครีมลดริ้วรอย การใช้ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายและไม่ต้องเจ็บตัว แต่ต้องอาศัยวินัยในการทาอย่างสม่ำเสมอ ใช้เวลานานและได้ผลกับริ้วรอยตื้นๆเท่านั้น สารสำคัญที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ เช่น Argireline, DMAE, Astaxanthin, AHA
เหมาะกับริ้วรอยแบบใด
- ริ้วรอยตื้นๆ ทั่วใบหน้า
ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่มีริ้วรอยลึก
- คนที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนในระยะเวลาอันรวดเร็ว
- คนที่ไม่ค่อยมีวินัยในการทาครีม
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเริ่มเห็นผล?
- เริ่มเห็นผลหลังใช้อย่างน้อย 1 เดือน ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้
อยู่ได้นานเท่าไหร่?
- อยู่ได้ประมาณ 1 เดือนหลังหยุดใช้

เมโส (Mesotherapy) เป็นการใช้สารสกัดเช่นเดียวกับครีมลดริ้วรอยฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยเติมเต็มและฟื้นฟูผิว เห็นผลการลดเลือนริ้วรอยได้เร็วกว่าการใช้ครีม และยังช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใสได้อีกด้วย สารสกัดที่นิยมใช้ได้แก่ ไฮยาลูรอน, PN, PDRN
เหมาะกับริ้วรอยแบบใด
- ริ้วรอยตื้นๆ ทั่วใบหน้า
ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- คนที่มีประวัติแพ้สารสกัดที่เป็นส่วนประกอบของเมโส
- คนที่มีริ้วรอยร่องลึก
- คนที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเริ่มเห็นผล?
- เริ่มเห็นผลหลังจากฉีดประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
อยู่ได้นานเท่าไหร่?
- แนะนำให้ทำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ครั้งต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1 เดือน

โบท็อกซ์ (Botox) โบท็อกซ์เป็นโปรตีนที่สกัดมาจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ออกฤทธิ์โดยการลดการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน และยังช่วยป้องกันไม่ให้ริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้ากลายเป็นริ้วรอยลึกในอนาคตด้วย
เหมาะกับริ้วรอยแบบใด
- ริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้า
- ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
- ริ้วรอยตีนกา
- ร่องแก้มตื้นๆ
ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- คนที่มีประวัติแพ้ Botulinum toxin
- คนที่ดื้อโบท็อก
- คนที่ผิวหนังติดเชื้อบริเวณที่จะฉีดโบท็อก
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเริ่มเห็นผล?
- เริ่มเห็นผลหลังจากฉีด 3 – 7 วัน และเห็นผลเต็มที่ในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์
อยู่ได้นานเท่าไหร่?
- อยู่ได้นาน 6 - 8 เดือนหลังการฉีด 1 ครั้ง

ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นการใช้ไฮยาลูรอนชนิด cross link หรือสารเติมเต็มอื่นๆ ช่วยลดได้ทั้งริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้าและเติมเต็มริ้วรอยที่เป็นร่องลึกได้ เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกหลังฉีด นอกจากนี้ไฮยาลูรอนยังช่วยอุ้มน้ำให้แก่ผิว จึงชะลอการเกิดร่องลึกเพิ่มขึ้นในอนาคตได้
เหมาะกับริ้วรอยแบบใด
- ริ้วรอยลึก
- ร่องใต้ตา
- ร่องแก้ม
ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- คนที่มีประวัติแพ้ยาชา
- คนที่ผิวหนังติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
- คนที่มีริ้วรอยเล็กๆ ตื้นๆ
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเริ่มเห็นผล?
- เริ่มเห็นผลทันทีหลังจากฉีด
อยู่ได้นานเท่าไหร่?
- อยู่ได้นาน 8 - 12 เดือนจากการฉีด 1 ครั้ง

เลเซอร์ (Laser) เป็นการใช้เครื่องมือส่งพลังงานไปยังใต้ชั้นผิวหนังเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เครื่องเลเซอร์มีหลายชนิด เช่น Nd:YAG, Fractional laser, IPL สามารถช่วยลดเลื่อนริ้วรอย รวมถึงจุดด่างดำบนใบหน้าได้ หลังทำควรเลี่ยงการออกแดดเพราะเป็นช่วงที่ผิวขาดความแข็งแรง
เหมาะกับริ้วรอยแบบใด
- ริ้วรอยตื้นๆ ทั่วใบหน้า
- ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
- ริ้วรอยตีนกา
- ริ้วรอยที่คอ
ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- คนที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงแสงแดดไม่ได้
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเริ่มเห็นผล?
- ประมาณ 3 - 4 สัปดาห์
อยู่ได้นานเท่าไหร่?
- แนะนำให้ทำ 2 - 3 ครั้ง ผลลัพธ์คงอยู่นาน 6 เดือน

ไฮฟู่ (Hifu) เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวน์ยิงลงไปใต้ชั้นผิวกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวบริเวณที่ทำหัตถการดูเต่งตึง กระชับ เรียบเนียนขึ้น แก้ได้ทั้งปัญหาริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มาก
เหมาะกับริ้วรอยแบบใด
- ริ้วรอยตื้นๆ ทั่วใบหน้า
- ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
- ริ้วรอยตีนกา
- ริ้วรอยที่คอ
ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- คนที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกมาไม่เกิน 6 เดือน เนื่องจากเป็นการปล่อยพลังงานลงผิวชั้นลึกจึงอาจทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์หรือโบท็อกสั้นลงได้
- คนที่เคยร้อยไหมมาก่อน เพราะความร้อนอาจทำให้ไหมขาดได้ ควรรอให้ไหมละลายหมดก่อน
- คนที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pace maker)
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเริ่มเห็นผล?
- เริ่มเห็นผลทันที เห็นผลเต็มที่ใน 2 - 3 เดือน
อยู่ได้นานเท่าไหร่?
- ผลลัพธ์คงอยู่นาน 6 เดือน - 1 ปี

อัลเทอร่า (Ulthera) เครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการกระชับหย่อนคล้อยและปรับกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น โดยอัลเทอร่าเป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์เข้าสู่ชั้นผิวไปกระตุ้นชั้นผิวให้เกิดการหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ นอกจากจะส่งผลให้ผิวที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้นแล้วยังช่วยให้ริ้วรอยลดเลือนลง เหมาะกับคนที่มีริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น และผิวหย่อนคล้อย
เหมาะกับริ้วรอยแบบใด
- ริ้วรอยตื้นๆ ทั่วใบหน้า
- ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
- ริ้วรอยตีนกา
- ริ้วรอยที่คอ
- ร่องแก้มตื้นๆ
ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- คนที่กำลังตั้งครรภ์
- คนที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกมาไม่เกิน 6 เดือน เนื่องจากเป็นการปล่อยพลังงานลงผิวชั้นลึกจึงอาจทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์หรือโบท็อกสั้นลงได้
- คนที่เคยร้อยไหมมาก่อน เพราะความร้อนอาจทำให้ไหมขาดได้ ควรรอให้ไหมละลายหมดก่อน
- คนที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pace maker)
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเริ่มเห็นผล?
- เริ่มเห็นผลทันที เห็นผลเต็มที่ใน 2 - 3 เดือน
อยู่ได้นานเท่าไหร่?
- ผลลัพธ์คงอยู่นาน 1 - 2 ปี

เทอร์มาจ (Thermage) เป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุสู่ชั้นผิว ลึกได้ถึงชั้นไขมันใต้ผิว (Subcutaneous fat) ช่วยลดไขมันพร้อมกระตุ้นการสร้างคลอลาเจนและอิลาสตินใหม่ขึ้นมา ทำให้ผิวเรียบเนียบขึ้น ริ้วรอยดูจางลง แก้ปัญหาริ้วรอยและร่องตื้นๆ ได้ และยังช่วยแก้ปัญหาผิวไม่กระชับ แก้มห้อย ผิวหย่อนคล้อยได้
เหมาะกับริ้วรอยแบบใด
- ริ้วรอยตื้นๆ ทั่วใบหน้า
- ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
- ริ้วรอยตีนกา
- ริ้วรอยที่คอ
- ร่องแก้มตื้นๆ
ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- คนที่กำลังตั้งครรภ์
- คนที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกมาไม่เกิน 6 เดือน เนื่องจากเป็นการปล่อยพลังงานลงผิวชั้นลึกจึงอาจทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์หรือโบท็อกสั้นลงได้
- คนที่เคยร้อยไหมมาก่อน เพราะความร้อนอาจทำให้ไหมขาดได้ ควรรอให้ไหมละลายหมดก่อน
- คนที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pace maker)
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเริ่มเห็นผล?
- เริ่มเห็นผลทันที เห็นผลเต็มที่ใน 2 - 3 เดือน
อยู่ได้นานเท่าไหร่?
- ผลลัพธ์คงอยู่นาน 1 - 2 ปี

ร้อยไหม (Thread lift) เป็นการใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อดึงให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นและเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบเส้นไหมทำให้ผิวยังคงดูกระชับแม้ไหมจะละลายไปแล้ว โดยไหมแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ
ไหมเงี่ยง เส้นไหมจะมีเงี่ยงเล็กๆ เพื่อเกี่ยวเนื้อให้ยกขึ้นตามแนวเส้นไหม และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก ตีนกา และร่องแก้มได้ดี เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ
ไหมเรียบ เส้นไหมจะเรียบและขนาดเล็กกว่าไหมเงี่ยง ช่วยเพิ่มวอลลุ่มผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แก้ปัญหาริ้วรอยเล็กๆ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ร่องใต้ตาและตีนกาได้ดี
เหมาะกับริ้วรอยแบบใด
- ริ้วรอยตื้นๆ ทั่วใบหน้า
- ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
- ริ้วรอยตีนกา
- ร่องแก้ม ร่องใต้ตา
ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- คนที่กำลังตั้งครรภ์
- คนที่มีอาการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณที่จะทำ
- คนที่แพ้ยาชา
- คนที่มีเกล็ดเลือดต่ำหรือคนที่กินต้องกินยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเริ่มเห็นผล?
- เห็นผลหลังทำทันที เห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 1 เดือน
อยู่ได้นานเท่าไหร่?
- ผลลัพธ์คงอยู่นาน 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นไหม
| ความเหมาะสม | ความเจ็บ | คะแนนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ |
ครีมลดริ้วรอย | ริ้วรอยตื้นๆ | ![]() | ![]() |
เมโส | ริ้วรอยตื้นๆ | ![]() | ![]() |
โบท็อก | ริ้วรอยเล็กๆ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยตีนกา ร่องแก้มตื้นๆ | ![]() | ![]() |
ฟิลเลอร์ | ริ้วรอยลึก ร่องใต้ตา ร่องแก้ม | ![]() | ![]() |
เลเซอร์ | ริ้วรอยตื้นๆ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยที่คอ | ![]() | ![]() |
ไฮฟู่ | ริ้วรอยตื้นๆ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยที่คอ | ![]() | ![]() |
อัลเทอร่า | ริ้วรอยตื้นๆ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยที่คอ ร่องแก้มตื้นๆ | ![]() | ![]() |
เทอร์มาจ | ริ้วรอยตื้นๆ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยที่คอ ร่องแก้มตื้นๆ | ![]() | ![]() |
ร้อยไหม | ริ้วรอยตื้นๆ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยที่คอ ร่องแก้ม ร่องใต้ตา | ![]() | ![]() |

INNOCELLA เคล็ดลับ ช่วยฟื้นฟูสุขภาพโดยรวม กระตุ้นการทำงานและชะลอความเสื่อมของร่างกายทั้งระบบ
STEM CELL STIMULATING FACTOR : ซ่อมเเซม ฟื้นฟูร่างกาย เเละ กระตุ้นการผลิต Stem Cell จากไขกระดูกได้เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ
GROWTH FACTOR : กระตุ้นการเจริญเติบโต ซ่อมเเซมทุกระบบของร่างกาย เช่น NGF ช่วยการเจริญของระบบประสาท HGF ช่วยการเจริญเติบโตและซ่อมแซมตับ EGF ช่วยเรื่องผิวพรรณ IGF ช่วยชะลอความชราและปรับสมดุลฮอร์โมนจึงช่วยเรื่องลดอาการของวัยทอง
PDRN (POLYDEOXYRIBONUCLEOTIDE) : เร่งการรักษาบาดเเผล ฟื้นฟูเสริมเสร้างเส้นใยคลอลาเจนเเละอิลาสตินใต้ชั้นผิว ปกป้องผิวจากการทำลายจากรังสียูวี
CYTOKINES : ควบคุมการทำงาน สร้างแอนติบอดี้ กระตุ้นเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันให้เเข็งเเรง
MESENCHYMAL EXTRACT : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเเละหลอดเลือดให้กับชั้นผิว เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวให้ดูเนียนนุ่ม
PEPTIDES : ฟื้นฟูร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติมีพลังชีวิต เร่งการสร้างเนื้อเยื่อ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ คงความเป็นหนุ่มสาว เเละคงความมีอายุยืนนานไว้
สนใจสินค้าของ INNO CELLA สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ 061-5325495 หรือ กดเเอด Line ด้านล่างได้เลยค่ะ