หน้ากากอนามัย "แอลกอฮอล์" เว้นระยะห่าง สู้กับไวรัส Covid-19 ได้อย่างไร?
Updated: Dec 26, 2022
ว่าทำไมต้องสวม ทำไมต้องล้าง ทำไมต้องห่าง ทุกคำถาม ทุกข้อสงสัย
วันนี้เรามีคำตอบให้คุณว่า....

หน้ากากอนามัย สำคัญอย่างไร แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ Covid-19 ได้อย่างไร เราเว้นระยะห่างอย่างไรได้บ้าง
เพราะเรา Innovation Beauty ห่วงใยคุณจากสถานการณ์ปัจจุบัน Covid-19

หน้ากากอนามัยสำคัญอย่างไร
หน้ากากอนามัย...
ช่วยป้องกันเชื้อโรคไม่ให้ออกหรือเข้ามาในร่างกายได้ ซึ่งปกติเชื้อ Covid-19 มีขนาดเฉลี่ย 0.1 ไมครอน ส่วนละอองฝอย (Droplet) จากเสมหะที่ไอ (coughs) จาม (sneezes) มีขนาด มากกว่า 5 ไมครอน หน้ากากอนามัยจึงต้องมีคุณสมบัติในการกรองสิ่งแปลกปลอมรวมถึงคุณสมบติกันน้ำและของเหลวเพื่อไม่ให้ละอองฝอยไอ หรือ จามแทรกซึมผ่านเข้าหรือออกไปได้ มีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งแปลกปลอม 0.1 ไมครอนขึ้นไป แล้วแต่ชนิดและเทคนิคการผลิต
1. BFE (Bacterial Filtration Efficiency) กรองเชื้อแบคทีเรีย ที่มีอนุภาคขนาด 3 ไมครอนขึ้นไป
2. VFE (Viral Filtration Efficiency) กรองอนุภาคและเชื้อไวรัส ขนาด 0.1-5 ไมครอนขึ้นไป
3. PFE (Particulate Filtration Efficiency) กรองอนุภาคและเชื้อไวรัสขนาด 0.1 ไมครอนขึ้นไป ได้ถึง 99%
เพราะฉะนั้นหน้าการอนามัยส่วนใหญ่จะมีด้วยกันถึง 3 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป
ชั้นนอก ผ้าสปันบอนด์ มีลักษณะผิวค่อนข้างมัน นุ่ม เหนียว มีคุณสมบัติกันน้ำ ทนความชื้น มีไว้ป้องกันละอองน้ำ ของเหลว ฝุ่นละอองขนาดใหญ่
ชั้นกลาง ผ้าเมลต์โบลน Polypropylene Fabric ทำหน้าที่เหมือนแผ่นกรองละเอียด มีไว้เพิ่มประสิทธิภาพการกรองขนาดเล็ก แบคทีเรีย เชื้อโรคต่างๆ
ชั้นใน จะเป็นผ้าที่นุ่ม ไม่ละคายเคืองผิว อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อความสบายเวลาส่วมใส่
ซึ่งส่วนใหญ่หน้ากากจะจับละอองใหญ่และละอองฝอย ไม่ให้ล่องลอยไปไกลๆในอากาศ ละอองส่วนใหญ่จะอยู่รอบๆหน้ากากบริเวณใบหน้าของผู้ติดเชื้อที่พูดเสียงดัง ตะโกน ร้องเพลง ไอ หรือจาม ลดโอกาสคนที่อยู่ใกล้ชิดหายใจเอาเชื้อไวรัสเข้าปอด ยิ่งคนใกล้ชิดสวมหน้ากากอนามัยด้วย
ดังนั้นควรใส่หน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็นต้องออกไปในที่แออัด หรือต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่นในที่สาธารณะ
จะเห็นได้ว่าการใส่หน้ากากอนามัยก็ไม่ได้ปกป้องเชื้อไวรัสได้ 100% เราจึงต้องมีการฆ่าเชื้อโรคที่มืออยู่เป็นประจำด้วยแอลกอฮอร์เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อไวรัส

แอลกอฮอล์ ที่ใช้งานในโรงพยาบาลมี 2 ชนิด คือ
- เอทิลแอลกอฮอล์ (ethyl alcohol หรือ ethanol)
- ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl alcohol)
แอลกอฮอล์ทั้ง 2 ชนิดเป็นของเหลว ไม่มีสี ระเหยได้ที่อุณหภูมิห้อง ไม่มีฤทธิ์ตกค้าง แอลกอฮอล์จะมีประสิทธิภาพในการทำลายได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส เมื่อมีความเข้มข้นประมาณ 70-90% โดยปริมาตร โดยเอทิลแอลกอฮอล์จะทำลายเชื้อไวรัสได้ดีกว่าและระคายเคืองผิวหนังน้อยกว่าไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้อไวรัสได้อย่างไร
แอลกอฮอล์สามารถทำลายเชื้อแบคทีเรียทั้งแกรมบวกและลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัสบางชนิด โดยเฉพาะเชื้อที่มีโครงสร้างไขมันหุ้มอยู่ แอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นเกิน 70% จึงจะสามารถทำลายไวรัสที่มีเปลือกหุ้มที่เป็นโครงสร้างไขมัน
โดยแอลกอฮอล์เมื่อละลายกับน้ำจะสามารถแพร่ผ่านเปลือกหุ้มได้ดีขึ้น จึงทำให้โปรตีนเสียสภาพ และยังทำให้เปลือกหุ้มไวรัสแตกและเข้าไปรบกวนระบบการดำรงชีพของไวรัส ทำให้เชื้อไวรัสตายในที่สุด
ส่วนแอลกอฮอล์ที่มีเข้มข้นมากกว่า 90% จะทำให้โปรตีนด้านนอกของเยื่อหุ้มเซลล์เสียสภาพได้อย่างเดียว ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์สูงเกินไปก็จะระเหยเร็วเกินไป ในขณะที่เจือจางก็จะออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้น้อยลงตามเปอร์เซนต์ซึ่ง 70% จึงเป็นความเข้มข้นที่เหมาะสมในการใช้ฆ่าเชื้อโรคได้

การเว้นระยะห่างสำคัญอย่างไร
การเว้นระยะห่างทางกายภาพกับบุคคลอื่น เป็นหนึ่งในมาตรการลดการแพร่ระบาดของเชื้อที่ติอต่อทางละอองฝอย หรือการสัมผัส ควรเว้นระยะห่างดังนี้
1. ยืน-นั่งห่างกันอย่างน้อย 1.5-2 เมตร
2. งดการรวมตัวกันในสถานศึกษา ที่ทำงาน
3. ควรรับประทานอาหารเป็นชุดสำหรับคนเดียว หลีกเลี่ยงการร่วมสำรับกับผู้อื่น
4. เปลี่ยนระบบการทำธุรกิจโดยใช้ทางออนไลน์ และติดต่อทางโทรศัพท์เป็นหลัก
5. ควรทันมาเรียนออนไลน์แทนการเรียนในชั้นเรียนและเลี่ยงการจัดประชุมที่มีการรวมคน
6. ใช้การเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์